วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กว้านซื้อที่อีสานผุดนิคมฯ รับ AEC


          "บีโอไอ" เผยพื้นที่ภาคอีสานตอนบนเนื้อหอม นักลงทุนต่างชาติยังแห่กว้านซื้อที่เพื่อตั้งนิคมฯ และตั้งโรงงานรองรับ AEC ล่าสุดจีนกว้านซื้อที่ขอนแก่น 4.1 พันไร่ เล็งตั้งนิคมฯ สีเขียว ขณะที่อุดรธานีจ่อผุดเขตอุตฯ 2 พันไร่ ขณะที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างผุดรับก่อสร้าง บูมเพียบ
           น.ส.รัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติสนใจเข้ามาดูพื้นที่สำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและการตั้งโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ที่การค้าและการลงทุนจะขยายตัวสูง
          ล่าสุดนักลงทุนจีนได้เข้ามาทยอยซื้อพื้นที่ใน อ.ท่าพระ จ.ขอนแก่นแล้ว 4,100 ไร่ เพื่อจัดตั้งนิคมฯ สีเขียว โดยมีการตั้งบริษัทร่วมทุนกับไทย ซึ่งพื้นที่เดิมส่วนใหญ่ปลูกมันสำปะหลัง โดยกำลังรอการประกาศผังเมืองรวมของจังหวัดอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาการพัฒนา 1-2 ปี ขณะเดียวกัน ล่าสุด บริษัท เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี ยังได้รับการส่งเสริมกิจการเขตอุตสาหกรรมพื้นที่ 2,000 ไร่ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 4,250 ล้านบาท ตั้งโครงการที่อำเภอเมือง จ.อุดรธานี
          น.ส.รัตนวิมล กล่าวว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนที่มีการขยายตัวค่อนข้างสูงโดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ล่าสุดยังส่งผลให้ร้านค้าก่อสร้าง และวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ มีการขยายตัวตามค่อนข้างสูง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการป้อนตลาดภายในประเทศเท่านั้น ยังพบว่ามีแรงซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดชายแดนข้ามมาซื้อจำนวนมากอีกด้วย
          สำหรับทิศทางการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เดือน ก.ค.56 มีทั้งสิ้น 6 โครงการ เงินลงทุน 387 ล้านบาท โดยทั้งโครงการและเงินลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 20% และ 13.56% ตามลำดับ และการลงทุน 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.56) มีทั้งสิ้น 36 กิจการ เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม กิจการที่ได้รับความสนใจส่วนใหญ่เป็นกิจการเกษตรและผลิตผลจากการเกษตร
          "กิจการที่ได้รับการส่งเสริมฯ เดือน ก.ค.ล่าสุด ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ยางจากธรรมชาติ ของ บ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผลิตยางแท่งและยางผสม มูลค่าลงทุน 614 ล้านบาท ที่ จ.กาฬสินธุ์ และของนายเกียรติ กิตติกุลเสรีคำ มีกำลังการผลิตยางแท่งและยางผสม มูลค่า 1,715 ล้านบาท ที่ จ.อุดรธานี กิจการขยายการผลิตชิ้นส่วนของ บ.พานาโซนิค แมนูแฟกเจอริ่ง (ประเทศไทย) ลงทุน 57.8 ล้านบาท ที่ จ.ขอนแก่น เป็นต้น" น.ส.รัตนวิมล กล่าว
          สำหรับปัญหาแรงงานขณะนี้ยอมรับว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ว่ายังคงมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งระบบมีฝีมือและไร้ฝีมือ แม้ว่าจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเท่ากัน 300 บาทต่อวันแล้ว ก็ยังไม่ได้จูงใจให้เกิดการย้ายแรงงานกลับภูมิลำเนาเท่าที่ควรจะเป็นนัก เนื่องจากพบว่าบางจังหวัดเอง เช่น จ.ขอนแก่น ก็ไม่ได้มีค่าครองชีพที่ต่ำเมื่อเทียบกับอยู่ในพื้นที่แถบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ขณะเดียวกัน ในมาบตาพุดมีโรงงานค่อนข้างมากกลับมีโอกาสเคลื่อนย้ายแรงงานได้ง่ายกว่า
ที่มา : บ้านเมือง 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น