วันพุธที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556

'รวมทวีขอนแก่น' รุกมุกดาหารเชื่อมลงทุนลาว-เวียดนาม


                ผลจากโครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านของรัฐบาล ถนนทุกสาย ทางรถไฟทุกเส้น หรือแม้แต่ทางเชื่อมมอเตอร์เวย์ทั้งหมดในอีสาน ล้วนมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดชายแดนไทยกับแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพราะมองว่าถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังเวียดนามและมีทางออกทะเลได้  ดังนั้นเวลานี้หลายบริษัทจึงเข้าไปในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทุนจากส่วนกลาง จากต่างประเทศ หรือแม้แต่ทุนท้องถิ่น  ล้วนไปจับจองซื้อที่ดินเพื่อขยายการลงทุนในจังหวัดแห่งนี้
          สุรพล ทวีแสงสกุลไทย กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท รวมทวีขอนแก่น จำกัด  บอกว่าบริษัทของตนเป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกฮีโน่และเป็นศูนย์บริการ อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น  ขณะนี้ได้เข้าไปลงทุนเปิดศูนย์โชว์รูมใหม่ที่มุกดาหาร ใช้เงินลงทุน  60 ล้านบาท  คาดจะเปิดให้บริการได้ปลายปีนี้   สาเหตุที่เลือกไปขยายการลงทุนมุกดาหาร มองว่าเนื่องจากกลุ่มลูกค้า นอกจากเป็นนักธุรกิจที่ต้องใช้รถรับเหมาต่างๆ จาก มุกดาหาร อำนาจเจริญ สกลนคร นครพนมแล้ว  แต่ยังรองรับนักธุรกิจจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาวและเวียดนามได้  เนื่องจากเป็นจังหวัดชายแดน ที่สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้ทั้งสปป.ลาว และเวียดนาม  เมื่อมีการเปิดประชาคมเศษฐกิจอาเซียน(เออีซี)  
:มุกดาหารจุดเชื่อมต่อการค้า-การลงทุน
          มุกดาหารยังเป็นจังหวัดที่อยู่ในเส้นทางของถนนสายเศรษฐกิจคือ เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก- ตะวันตก (East-West Economic  Corridor: EWEC) หรือเส้นทางหมายเลข 9 (R9)  EWEC เป็นเส้นทางเริ่มจากเมืองท่าดานังของเวียดนาม ผ่านเมืองเว้และเมืองลาวบาว ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม ติดกับชายแดนสปป.ลาว จากนั้นเส้นทางหมายเลข 9 จะผ่านเข้าแขวงสะหวันนะเขตในสปป.ลาว และข้ามสะพานมิตรภาพ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ข้ามแม่น้ำโขงสู่ไทยที่มุกดาหาร ผ่านกาฬสินธุ์ ขอนแก่นเพชรบูรณ์ พิษณุโลก ไปสิ้นสุดที่อ.แม่สอด จ.ตาก สามารถเข้ายังประเทศพม่า อ่าวเมาะตะมะที่เมืองเมาะลำไย หรือมะละแหม่ง เป็นการเชื่อมจากทะเลจีนใต้ไปสู่มหาสมุทรอินเดีย เมื่อเปิดเออีซี มุกดาหารจะเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีนักลงทุนเข้าไปลงทุนมาก
          :ชี้ประโยชน์เออีซีเป็นแค่คาดหวัง โดยกลุ่มลูกค้าช่วงแรกคาดว่าจะมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาว เวียดนาม ประมาณ 10 % แต่ปัญหาการขยายตลาดไปเวียดนามและสปป.ลาว ยังติดเรื่องการใช้รถยนต์พวงมาลัยซ้าย ขณะที่รถยนต์จากไทยขับด้วยพวงมาลัยขวา  จึงส่งผลต่อการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน ในอนาคตคงต้องมีการเจรจา ดัดแปลงพวงมาลัยขวาให้เปลี่ยนเป็นพวงมาลัยซ้ายสำหรับลูกค้าที่มีความสนใจ
          ทั้งนี้เมื่อมีการเปิดเออีซีขึ้น ส่วนตัวมองว่าประโยชน์ที่จะได้รับยังเป็นความ "คาดฝันอยู่" เชื่อว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่ ส่วนจะมากหรือน้อยก็ต้องแก้ปัญหา  ถ้าหากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบของภาครัฐ และความพร้อมของไทยเอง  อย่างไรก็ตามประเทศไทยต้องมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง และให้ได้ผลประโยชน์รวมกันทุกฝ่าย
          :เล็งขยายลงทุนเข้าลาว-เวียดนาม
          ปัจจุบันบริษัท รวมทวีขอนแก่น จำกัด  เป็นตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกฮีโน่ และศูนย์บริการ ในพื้นที่จ.ขอนแก่น คาดว่าในอนาคตจะขยายการลงทุนไปต่างประเทศ สปป.ลาวและเวียดนาม ซึ่งจะเป็นลักษณะการเข้าไปร่วมทุนกับประเทศนั้นๆ  แต่ทั้งนี้คงต้องศึกษากฎหมาย กฏระเบียบในแต่ละประเทศก่อน  เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต    การค้าในปัจจุบันของสปป.ลาวนั้น ซื้อสินค้าด้วยเงินสด ดังนั้นปัญหาการติดตามก็คงจะน้อยลง ส่วนเวียดนามก็คล้ายๆกัน แต่จะกังวลในเรื่องของกฎหมายมากเพราะแต่ละประเทศมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน
          ทั้งนี้กิจการในเครือรวมทวีมี 2 รูปแบบ คือ ตัวแทนจำหน่ายฮีโน่และศูนย์บริการ มีสาขาอยู่ในภาคอีสานตอนบนและอีสานตอนกลาง  โดยอีสานตอนบนนั้นมีสุรชัย  ทวีแสงสกุลไทย  เป็นผู้รับผิดชอบ โดยใช้ชื่อ  อุดร ช.ทวี จำกัด โดยมีสาขาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ,เลย, หนองคาย, และหนองบัวลำภู ส่วนอีสานตอนกลาง เป็นของสุรพล ทวีแสงสกุลไทย   รับผิดชอบ มีสาขาอยู่ที่ขอนแก่น 2 แห่งคือ  ที่ อ.เมืองและ อ.ชุมแพ  ล่าสุดได้เปิดสาขาเพิ่มอีกแห่งหนึ่งที่ จ.มุกดาหาร ส่วนบริษัท  ช.ทวีดอลลาเชียน จำกัด และบริษัท วอลแลพ ทรัคแอนด์บัส จำกัด มี สุรเดช  ทวีแสงสกุลไทย  รับผิดชอบทั้งหมด
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น