วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

ดีคอนผุดโรงงานเพิ่มรับงบก่อสร้าง 2 ล้านล.ดันวัสดุพุ่งพร้อมลุยคอนโดเพิ่มอีก1 โครงการ


ดีคอน เตรียมผุดโรงงานใหม่ ขอนแก่น-ระยอง รับความต้องการใช้วัสดุเพิ่ม จากงบลงทุน 2 ล้านล้าน  นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีคอนโปรดักส์ ผู้ผลิตแผ่นพื้น เสาเข็ม ผนังสำเร็จรูป คอนกรีตมวลเบา เปิดเผยว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจโดยรวม และภาคการก่อสร้าง โดยจะทำให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ปัจจุบันการผลิตสินค้าของบริษัทได้เต็มกำลังการผลิตแล้ว
          ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตเป็น 8,500 ตารางเมตรต่อวัน จากปีก่อนที่มีการผลิตอยู่ที่ 7,500 ตารางเมตรต่อวันขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงงานใหม่อีก 2 แห่ง คือ ที่ จ.ขอนแก่นและระยอง ใช้งบลงทุนแห่งละ 70 ล้านบาท ซึ่งมีกำลังการผลิตแห่งละ 1,300 ตารางเมตรต่อวัน คาดว่าจะสร้างเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ และจะทำให้บริษัทสามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมขึ้น
          สำหรับในปัจจุบันบริษัทมีโรงงานอยู่จำนวน 4 แห่ง คือ ที่ จ.ลำพูน 1 แห่งสุราษฎร์ธานี 1 แห่ง ลพบุรี 2 แห่ง ทั้งนี้อยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินที่ จ.นครปฐมเพื่อสร้างโรงงานเพิ่มรองรับการกระจายสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทดแทนการขนส่งสินค้าจากโรงงานที่ จ.ลพบุรี ที่มีต้นทุนค่าขนส่งที่สูงขึ้น โดยคาดว่าเมื่อหาที่ดินได้แล้วจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ในต้นปีหน้า และจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี2557
          นายวิทวัส กล่าวอีกว่า ในปี 2556 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวม 1,314 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปี 2555 ที่มีรายได้รวม 1,029 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากโครงการบ้านเดี่ยว Dzio ราชพฤกษ์ จำนวน 30 หลัง มูลค่ารวม 120 ล้านบาท ปัจจุบันขายได้แล้วจำนวน 12 หลัง
          นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียม Dzio งามวงศ์วาน มูลค่าโครงการประมาณ 800-900 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายในปลายเดือน เม.ย.นี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือน ก.ค.
          คาดว่าจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี2557 โดยในปี 2557 คาดว่าจะมีรายได้จำนวน 1,984 ล้านบาท หรือเกือบ 2,000 ล้านบาท
          "ปัจจุบันลูกค้าได้มีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทผลิตสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ และได้มีการปรับราคาขายสินค้าเพิ่มประมาณ 20-30%โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการขายแผ่นพื้นคอนกรีต 60% เสาเข็ม 31%อิฐมวลเบา 8% อีก 1% เป็นรายได้อื่นๆส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 32% ของรายได้รวมปีนี้" นายวิทวัส กล่าว
ที่มา : โพสต์ทูเดย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น