ว่ากันว่าปัจจุบันตลาดรวมชุดชั้นในของเมืองไทยมีมูลค่าถึง
6,000 ล้านบาท
แต่ตัวเลขนี้ก็เป็นเพียงการเก็บตัวเลขเฉพาะช่องทางที่ขายผ่านห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
และเป็นที่ยอมรับของคนในวงการว่า ถ้าจะประเมินถึงเม็ดเงินที่สะพัดใน
ทุกช่องทางแล้ว ยากที่จะทำได้
นั่นหมายความว่า ตัวเลขที่ขาย
ทั่วประเทศในแต่ละปีมีมูลค่ามหาศาลเพียงใด จึงไม่แปลกที่การแข่งขันของตลาด
ชุดชั้นในจะเป็นความเคลื่อนไหวที่มีสีสันและร้อนแรงดุเดือดมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี
ไม่ว่าจะเป็นช่องทางห้างสรรพสินค้า- โมเดิร์นเทรดไปจนถึงร้านค้าตลาดนัดริมทาง เช่นเดียวกับภาพการขยับตัวเชิงรุก
ของเจ้าตลาด "วาโก้" ที่แม้ว่าจะครอง ส่วนแบ่งตลาด 56-57% ทิ้งห่าง "ซาบีน่า"ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 13% หรือ
"ไทรอัมพ์" ที่มีส่วนแบ่ง 12%ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้
ทั้งนี้เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ และความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนตลอดเวลา ไม่เพียงภารกิจการรักษาส่วนแบ่งตลาดเพื่อครองบัลลังก์แชมป์เอาไว้ให้ได้ต่อเนื่องแล้ว
"วาโก้" ยังต้องเร่งลบภาพแบรนด์
วาโก้ไม่ให้ติดอยู่กับการรับรู้ของกลุ่มลูกค้าว่าเป็นแบรนด์เก่าและแก่ควบคู่กัน
ไปด้วย
นอกจากการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ และดูเป็นคนรุ่นใหม่-วัยรุ่นมากขึ้นแล้ว การเพิ่มไลน์อัพสินค้าด้วยการแตกแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมก็เป็นสิ่งที่วาโก้ได้ เริ่มทำ และเร่งทำอย่างต่อเนื่อง จากการลงพื้นที่สำรวจตลาดของ ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่า ขณะนี้บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ชุดชั้นใน "วาโก้" ได้เริ่มทยอยนำร่อง เปิดร้านในรูปแบบของ "คอนเซ็ปต์สโตร์"มากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางใหม่ที่เข้ามาเสริมช่องทางขายที่เป็นคอร์เนอร์ หรือแผนก ชุดชั้นในในห้างสรรพสินค้า
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทดลองเปิด "วาโก้ช็อป" ในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ และเตรียมจะขยายไปยังศูนย์การค้าอื่น ๆ รวมถึงในพื้นที่เอาต์เลตมอลล์ให้มากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ไอ.ซี.ซี.ฯได้ทดลองเปิดโมเดล "มู้ดช็อป" (mood SHOP) ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่นด้วยเป้าหมายต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น โดยเฉพาะสาวไซซ์เล็ก ทิศทางการเดินหน้าทางธุรกิจในช่องทางใหม่ ๆ ดังกล่าว สอดคล้องกับ "ธรรมรัตน์ โชควัฒนา" กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ฉายภาพการเดินหน้าของวาโก้ก่อนหน้านี้ว่า เตรียมรุกตลาดทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางจำหน่าย การพัฒนาจุดขายในห้าง
รวมถึงเพิ่มช็อปทั้งในและนอกห้าง เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป
แม้ส่วนใหญ่ลูกค้ายังนิยมซื้อสินค้าตามห้าง และเป็นช่องทางขายหลักของวาโก้ แต่ปัจจุบันจะพบว่ามีลูกค้าบางกลุ่มที่ชื่นชอบซื้อสินค้านอกห้างมากขึ้น และปัจจุบันได้เปิดร้านในรูปแบบช็อปไปแล้ว 10 แห่ง ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้า และการออกแบบดีไซน์อย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่าเป็นการเดินหน้าเชิงรุก "วาโก้" เปลี่ยนใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าที่พยายามปรับให้ทันสมัย ราคาที่มีทั้งความสมเหตุสมผล รวมถึง การแข่งขันโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม และการโฆษณาในทุกช่องทาง
ที่ผ่านมาวาโก้มีฐานลูกค้าค่อนข้างกว้าง เป็นผู้หญิงอายุเฉลี่ย 8-80 ปี มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปี มีสัดส่วนลูกค้าวัยรุ่นเพียง 10% เท่านั้น แต่ เป้าหมายต้องการขยับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเป็น 20-30% ให้ได้
และการนำเข้าชุดชั้นในเกาหลี "โซลบี (SOLB)" ซับแบรนด์ของวาโก้ เข้ามาเสริมทัพลุยตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่นก่อนหน้านี้ ก็เป็น 1 ในแนวทางการเดินหน้ารุกครั้งสำคัญของวาโก้
การปูพรมและเสริมทัพธุรกิจใน รูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโมเดล ร้าน "วาโก้ช็อป-มู้ดช็อป" การแตกซับแบรนด์เสริมทัพ รวมถึงการรีแบรนด์ครั้งใหญ่
เพื่อลบภาพความเก่าและแก่ กลายเป็น จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับการสู้ศึกชุดชั้นใน เพื่อรักษาบัลลังก์แชมป์เอาไว้ ให้ได้
นอกจากการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ และดูเป็นคนรุ่นใหม่-วัยรุ่นมากขึ้นแล้ว การเพิ่มไลน์อัพสินค้าด้วยการแตกแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมก็เป็นสิ่งที่วาโก้ได้ เริ่มทำ และเร่งทำอย่างต่อเนื่อง จากการลงพื้นที่สำรวจตลาดของ ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่า ขณะนี้บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ชุดชั้นใน "วาโก้" ได้เริ่มทยอยนำร่อง เปิดร้านในรูปแบบของ "คอนเซ็ปต์สโตร์"มากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางใหม่ที่เข้ามาเสริมช่องทางขายที่เป็นคอร์เนอร์ หรือแผนก ชุดชั้นในในห้างสรรพสินค้า
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทดลองเปิด "วาโก้ช็อป" ในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ และเตรียมจะขยายไปยังศูนย์การค้าอื่น ๆ รวมถึงในพื้นที่เอาต์เลตมอลล์ให้มากขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ไอ.ซี.ซี.ฯได้ทดลองเปิดโมเดล "มู้ดช็อป" (mood SHOP) ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่นด้วยเป้าหมายต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น โดยเฉพาะสาวไซซ์เล็ก ทิศทางการเดินหน้าทางธุรกิจในช่องทางใหม่ ๆ ดังกล่าว สอดคล้องกับ "ธรรมรัตน์ โชควัฒนา" กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ฉายภาพการเดินหน้าของวาโก้ก่อนหน้านี้ว่า เตรียมรุกตลาดทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางจำหน่าย การพัฒนาจุดขายในห้าง
รวมถึงเพิ่มช็อปทั้งในและนอกห้าง เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป
แม้ส่วนใหญ่ลูกค้ายังนิยมซื้อสินค้าตามห้าง และเป็นช่องทางขายหลักของวาโก้ แต่ปัจจุบันจะพบว่ามีลูกค้าบางกลุ่มที่ชื่นชอบซื้อสินค้านอกห้างมากขึ้น และปัจจุบันได้เปิดร้านในรูปแบบช็อปไปแล้ว 10 แห่ง ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้า และการออกแบบดีไซน์อย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่าเป็นการเดินหน้าเชิงรุก "วาโก้" เปลี่ยนใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าที่พยายามปรับให้ทันสมัย ราคาที่มีทั้งความสมเหตุสมผล รวมถึง การแข่งขันโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม และการโฆษณาในทุกช่องทาง
ที่ผ่านมาวาโก้มีฐานลูกค้าค่อนข้างกว้าง เป็นผู้หญิงอายุเฉลี่ย 8-80 ปี มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิงอายุ 30 ปี มีสัดส่วนลูกค้าวัยรุ่นเพียง 10% เท่านั้น แต่ เป้าหมายต้องการขยับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเป็น 20-30% ให้ได้
และการนำเข้าชุดชั้นในเกาหลี "โซลบี (SOLB)" ซับแบรนด์ของวาโก้ เข้ามาเสริมทัพลุยตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่นก่อนหน้านี้ ก็เป็น 1 ในแนวทางการเดินหน้ารุกครั้งสำคัญของวาโก้
การปูพรมและเสริมทัพธุรกิจใน รูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโมเดล ร้าน "วาโก้ช็อป-มู้ดช็อป" การแตกซับแบรนด์เสริมทัพ รวมถึงการรีแบรนด์ครั้งใหญ่
เพื่อลบภาพความเก่าและแก่ กลายเป็น จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับการสู้ศึกชุดชั้นใน เพื่อรักษาบัลลังก์แชมป์เอาไว้ ให้ได้
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น