วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

'โลตัส'ทุ่ม 1.8 หมื่นล.ผุดสาขาใหม่ มั่นใจเศรษฐกิจไทยเติบโตดี หนุนส่งออกผัก-ผลไม้ไปจีน


          โลตัสมั่นใจเศรษฐกิจไทยโตดี ประกาศแผนลงทุนปีนี้อีก 1.8 หมื่นล้าน เพื่อขยายสาขาใหม่ เน้นขนาดเล็ก และปรับปรุงสาขาเดิม ตั้งศูนย์กระจายสินค้า พร้อมหนุนผักผลไม้ไทยส่งออกไปขายในจีน-อินเดีย
          นายจอห์น คริสตี้ ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า ยังคงแผนขยายการลงทุนในไทยต่อเนื่องอีก 18,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับใช้ในการขยายสาขาประมาณ 300 แห่ง โดยในปีนี้จะเน้นขยายสาขาขนาดเล็กหรือเอ็กซ์ เพรสเป็นหลักเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เพราะเป็นรูปแบบที่มีอัตราการเติบโตดี รวมทั้งปรับปรุง
สาขาเดิมราว 1,000 แห่ง ให้มีความทันสมัย สร้างศูนย์กระจายสินค้า ลงทุนสร้างศูนย์วิจัยสินค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ดี ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แม้ช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจจจะชะลอตัวลง แต่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับหลายประเทศที่เทสโก้ โลตัสเข้าไปลงทุน อีกทั้งในอนาคตอันใกล้ภูมิภาคนี้จะมีการเปิดเสรีทางการค้าหลายๆ ด้าน ซึ่งจะส่งผลดีกับภาวะเศรษฐกิจไทย
          นายคริสตี้กล่าวว่า นอกจากนี้ เทสโก้ โลตัสยังมีนโยบายสนับสนุนภาคส่งออก โดยจะนำสินค้าเกษตรประเภทผักและผลไม้ ส่งออกผ่านสาขาของเทสโก้ โลตัสไปในประเทศจีน อินเดีย พร้อมกับเดินหน้าส่งออกสินค้าไทยไปขายยังเครือข่ายร้านค้าเทสโก้ โลตัส 6,500 แห่งใน 12 ประเทศ ควบคู่ไปกับการเพิ่มเป้าหมายการรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรไทยเพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง 45% หรือคิดเป็นประมาณ 12,000 ตัน
          นายคริสตี้กล่าวว่า ภาพรวมของค้าปลีกในไทย ยังมีโอกาสเติบโตตามเศรษฐกิจ มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาด ในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ตลาดโต รวมทั้งการควบรวมกิจการของกลุ่มซีพีและแม็คโคร ซึ่งในส่วนนี้จะกระทบกับเทสโก้ โลตัสหรือไม่ขณะนี้ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายของเทสโก้ โลตัสจะให้ความสำคัญกับเรื่องการสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
          นายคริสตี้กล่าวว่า ปัจจุบันมีสาขาในไทย กว่า 1,400 แห่ง มีรูปแบบร้านค้า 5 ประเภทหลักคือ เอ็กซ์ตร้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ตลาดโลตัส,  และเอ็กซ์เพรส โดยปีที่ผ่านมามีผลประกอบการเติบโตในระดับ 16% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเป็นผลมาจากแคมเปญราคา การให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยี บริการ การเปิดบริการใหม่ เช่น ช็อปออนไลน์ การเปิดบริการช่องชำระเงินแบบเซลฟ์ เซอร์วิสแห่งแรกในประเทศไทย และปีนี้เชื่อว่าโลตัสจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา

ที่มา : มติชน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น