วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ซีพีออลล์ทุ่ม 2.5 พันล้านผุดดีซี 4 แห่ง


    คลุมทุกภูมิภาคเสริมแกร่งธุรกิจ หนุนเอสเอ็มอีกระจายสินค้าทั่วประเทศ
          ซีพีออลล์ อัดฉีด 2,500 ล้าน ขยายศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค 4 แห่ง ใน 5 ปี  เสริมแกร่งระบบซัพพลายเชน ทั้งเปิดทาง "เอสเอ็มอีท้องถิ่น" มีโอกาสกระจายสินค้าทั่วประเทศ
          นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล รองประธานเจ้าหน้าที้บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวกเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยถึงแผนธุรกิจใน 5 ปีข้างหน้าว่าจะเร่งขยายเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center : DC) อีกหลายแห่งในภูมิภาค เบื้องต้นจะใช้งบประมาณกว่า 2,500 ล้านบาทลงทุนดีซี 4 แห่ง ได้แก่ มหาชัย จ.สมุทรสาคร,  ภาคกลาง, อีสานใต้ และใต้ตอนล่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้าสู่เครือข่ายกว่า 7,141 แห่งในปัจจุบัน รวมทั้งอนาคตที่มีเป้าหมายเปิดบริการร้านเซเว่นอีเลฟเว่นครบ 1 หมื่นแห่งภายในปี 2560
          ทั้งนี้กำลังซื้อและบริโภคในต่างจังหวัดมีการเติบโตอย่างรวดเร็วตามรายได้ประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอีสาน ภาคตะวันออก และกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจขยายตัวสูง ส่งผลดีต่อธุรกิจเซเว่นอีเลฟเว่นที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นในชีวิตประจำวันจะเร่งขยายสาขาให้ครอบคลุม
          "ประสิทธิภาพของซัพพลายเชนสำคัญสำหรับการเติบโตของเซเว่นอีเลฟเว่นและธุรกิจค้าปลีก หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังร้านค้าได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องสินค้าก็จะขาด โอกาสขายก็น้อยลง การบริหารดีซีจะต้องมีระบบไอทีเข้ามาช่วยบริหารสินค้าให้กระจายได้อย่างรวดเร็ว คำสั่งซื้อที่มาตอนเช้าต้องถึงร้านสาขาภายใน 24 ชั่วโมง ไม่มีการค้าง สำคัญต้องแม่นยำ หากเร็วแต่ไม่ถูกต้องก็วุ่นวาย" นายพิทยากล่าว
          ดีซี  นับเป็นหัวใจหลักสนับสนุนการดำเนินธุรกิจค้าปลีกแบบเครือข่ายที่จำเป็นต้องมีระบบกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการคัดเลือกสินค้าที่ดี ตรงความต้องการของผู้บริโภคเข้าร้าน ปัจจุบันเซเว่นอีเลฟเว่น มีดีซี-อุปโภคบริโภคประเภทสินค้าแห้ง 6 แห่ง แบ่งเป็นดีซีหลักในกรุงเทพฯ 2 แห่ง ได้แก่ บางบัวทอง และสุวรรณภูมิ ในภูมิภาคมีดีซี 4 แห่ง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น ชลบุรี และลำพูน
          ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้าง ดีซี มหาชัย กำหนดเปิดบริการได้ภายในปี 2557 ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท รวมพื้นที่กว่า 2 หมื่นตร.ม. รองรับเครือข่ายสาขาภาคใต้ตอนบน และกรุงเทพฯ ตะวันตก กว่า 2,000 สาขา
          ส่วนดีซีอีก 3 แห่งอยู่ระหว่างพิจารณาทำเล คาดใช้งบลงทุนเฉลี่ย 500-600 ล้านบาทต่อแห่ง ขนาดพื้นที่ 1.5-1.7 หมื่น ตร.ม.โดยการลงทุนดีซีแต่ละแห่งจะต้องเลือกทำเลที่หลีกเลี่ยงน้ำท่วม มีเส้นทางสำรองในการเข้าถึงนอกเหนือจากเส้นทางหลักรองรับภาวะฉุกเฉิน อาทิ วิกฤติน้ำท่วม นอกจากนี้จะใช้งบอีก 100 ล้านลงทุนระบบห้องเย็นที่ดีซี เชียงใหม่ พื้นที่ 1,000-2,000 ตร.ม.
          สำหรับ ดีซี จ.ลำพูน ซึ่งเปิดบริการเป็นแห่งล่าสุดบนพื้นที่ 38 ไร่ พื้นที่คลังสินค้า 1.7 หมื่นตร.ม. รองรับการกระจายสินค้าสู่สาขาเขตภาคเหนือ 14 จังหวัด รวม 643 สาขา มีสินค้ามากกว่า 6,300 รายการ หนุนเอสเอ็มอีกระจายสินค้า
          นายชูศิลป์ จิรวงศ์ศรี รองกรรมการผู้จัดการ สำนักกระจายสินค้า กล่าวเสริมว่า การขยายเครือข่ายดีซีในภูมิภาคจะทำให้การกระจายสินค้าให้ร้านค้าทำได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มรอบการขนส่งได้ถี่ขึ้น สามารถปรับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ รองรับความหลากหลายของสินค้าที่อายุการจัดเก็บสั้น ทั้งยังเป็นโอกาสของผู้ผลิตสินค้าขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ในการกระจายสินค้าสู่ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
          "ผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ไม่มีปัญหาในการจัดส่ง แต่ผู้ผลิตรายเล็กไม่สามารถส่งสินค้าจำนวนน้อย และถี่ๆ ได้ แต่เน้นส่งปริมาณมากในครั้งเดียว ซึ่งเราไม่สามารถรับสินค้าไว้ที่ร้านได้เช่นกัน การขยายเครือข่ายดีซีในภูมิภาคให้ครอบคลุมพื้นที่จะเป็นแต้มต่อให้เอสเอ็มอีมีโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้นไม่เกิน 3 วันไปได้ทั่วประเทศ จากเดิมจำกัดอยู่เฉพาะท้องถิ่น" นายชูศิลป์กล่าวและว่า
          คอนวีเนียนสโตร์ไทยโอกาสโตเท่าตัว
          ผู้บริหารซีพีออลล์ กล่าวต่อว่า แม้ธุรกิจร้านค้าปลีกสะดวกซื้อประเทศไทยมีการขยายตัวสูงและแข่งขันรุนแรง แต่ยังมีโอกาสทางการตลาดอีกมากเมื่อเทียบประเทศญี่ปุ่น มีร้านสะดวกซื้อเปิดบริการกว่า 5 หมื่นแห่ง ขณะที่ไทยมีสาขาโดยรวมเพียง1.25 หมื่นแห่งเท่านั้น มีโอกาสขยายเพิ่ม "เท่าตัว" หรือเป็น 2.5 หมื่นแห่งภายในระยะเวลาอันใกล้ เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง ยิ่งนับถอยหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะยิ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโต
          สำหรับแผนเชิงรุกของเซเว่นอีเลฟเว่น มั่นใจว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 50% จากปัจจุบันมีสาขามากกว่าครึ่งของตลาดรวม และมีแผนเปิดสาขาเพิ่มปีละ 500-600 แห่ง เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย 1 หมื่นแห่งใน 5 ปีข้างหน้าก่อนจะพิจารณาแผนเปิดตลาดในลำดับต่อไป
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น