ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(เออีซี) ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด
โดยเฉพาะ "ภาคอีสาน" ประตูสู่อินโดจีน เพราะจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสู่ไทยมากขึ้น
ทำให้มีความต้องการทั้งที่อยู่อาศัยและสำนักงาน ประกอบกับการขยายตัว
"ความเป็นเมือง" ไปในหัวเมืองใหญ่ ส่งผลให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ใกล้เคียงกับสังคมกรุงเทพฯ
จังหวัดเศรษฐกิจและจังหวัดที่มีเส้นทางเชื่อมอาเซียน อย่างเช่น ขอนแก่น อุดรธานี
รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยวเช่น พัทยา ภูเก็ต จึงเริ่มเกิดเทรนด์ความต้องการ
"ซิตี้คอนโด" หรือคอนโดมิเนียมในเมือง ราคายูนิตละ 1-2 ล้านบาทเหมือนในเมืองหลวง ซึ่งตลาดนี้เคยบูมมากเมื่อ 6-7 ปีก่อน
ทั้งนี้ สะท้อนได้จากภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมขอนแก่น เริ่มคึกคักเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีโครงการที่ก่อสร้างและยื่นขออนุญาตกว่า 30 โครงการ รวมกว่า 8,000 ยูนิต กระจาย 3 ทำเลหลัก คือ ถนนศรีจันทร์ ถือเป็นย่านที่มีราคาสูงสุดเฉลี่ยตรม.ละ 7 หมื่นบาท, รอบบึงแก่นนคร ตร.ม.ละ 6 หมื่นบาท และรอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตรม.ละ 5 หมื่นบาท ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม่เกิน 8 ชั้น มีเพียงโครงการ "เดอะเบส ไฮท์ มิตรภาพ" ของแสนสิริ ที่เป็นตึกสูงประมาณ 36 ชั้น สะท้อนว่าคนขอนแก่นยอมรับกับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น
เนื่องจากขอนแก่นจัดเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเพื่อนบ้าน ประกอบลูกค้าในพื้นที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น คนรุ่นใหม่กล้าจับจ่ายใช้สอย และยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโด ส่งผลให้ความต้องการ ที่อยู่อาศัยในขอนแก่นเปลี่ยนไปมาก การคอนโดมิเนียมส่วนหนึ่งออกมาเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยจากการเปิดเออีซีนั่นเอง
จากข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ตลาดอสังหาฯ อุบลราชธานี ใน 5 - 10 ปี จะปรับเปลี่ยนจากที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นอาคารสูงใจกลางเมืองมากยิ่งขึ้น ด้วยศักยภาพของ จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่าน และประตูสู่การค้าชายแดนไทย ไปยังลาว เวียดนามและจีนตอนใต้ ประกอบกับการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขนาดใหญ่ถึง 1.4 แสนตร.ม.บริเวณถนนเลี่ยงเมือง ส่งผลให้ราคาที่ดินในอ.เมืองและที่ดินโดยรอบศูนย์การค้าดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้น โดยบางบริเวณมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในอุดรธานี มีการเติบโตเช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการอสังหาฯ ในพื้นที่มี 22 บริษัท มีโครงการจัดสรรเปิดตัว 26 โครงการ แต่ละปีมีจำนวนบ้านที่จดทะเบียนใหม่ในตลาดราว 8,000 หน่วย ในจำนวนนี้มีทั้งโครงการจัดสรร และบ้านสร้างเองอย่างละประมาณ 50% แต่ด้วยปัจจุบันที่ดินในอุดรฯ อยู่ในมือเจ้าของที่ดินรายใหญ่ไม่กี่ราย จึงมีการตั้งราคาขายไว้สูงจนไม่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบในเมืองได้ แม้แต่การพัฒนาอาคารชุดในเมืองก็อาจจะต้องเป็นอาคารชุดราคาปานกลาง-สูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการซื้อขายเก็งกำไรที่ดินเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นปีละ 50 - 100% ปัจจุบันที่ดินใจกลางเมืองบางแปลง มีการตั้งราคาขายไว้สูงถึง 1 แสนบาทต่อตร.ว.
สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า จ.อุดรฯ มีโครงการอสังหาฯที่อยู่ระหว่างการขาย 20 โครงการ และใน จ.อุบลฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย 10 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบประมาณ 80-90% ที่เหลือเป็นโครงการแนวสูงรวมทั้ง 2 จังหวัดกว่า 3,000 หน่วย ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดย ผู้ประกอบการรายใหญ่
:ปี56คอนโดพัทยาเปิด1.4หมื่นยูนิต
สุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า จากตัวเลขการจดทะเบียนคอนโดมิเนียมในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าหลายจังหวัดมีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยภูเก็ต มียอดจดทะเบียนคอนโด เพิ่มขึ้น 830% หาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 169% บางแสน-ชลบุรี เพิ่มขึ้น 165% ขอนแก่น เพิ่มขึ้น 47% ส่วนเชียงใหม่ เพิ่มขึ้น 14%
โดยเฉพาะพัทยา ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจมากขึ้น เพราะด้วยศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ และการมองถึงโอกาสเป็นฐานการผลิตของต่างชาติที่จะขยายไปสู่ประเทศอาเซียน พบว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเปิดขายใหม่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก บางโครงการปิดการขายได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการทั้งชาวไทย และต่างชาติที่มีโครงการอยู่ในพัทยาอยู่แล้วต่างก็ยังคงเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้ในปี 2556 มีคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดแล้วเสร็จมากกว่า 14,000 ยูนิต
นอกจากนี้ พบว่าซิตี้คอนโดมิเนียมที่จะสร้างเสร็จในปี 2556-2558 มีสัดส่วนยอดขายที่เติบโตน่าสนใจเช่นเดียวกัน โดย อ.เมืองเชียงใหม่ ขายไปแล้ว 74% ขอนแก่น ขายไปแล้ว 75% หาดใหญ่ ขาย 73% อ.เมืองภูเก็ต ขาย 70% บางแสน-ชลบุรี ขายไป 64%
อิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ราคาที่ดินในขอนแก่นถีบตัวสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยอยู่ในอัตราเพิ่มมากกว่า 100% ต่อปี โดยเฉพาะที่ดินใจกลางเมือง บริเวณถนนศรีจันทร์ ซึ่งราคาแตะ 2 แสนบาทต่อตร.ว. ประกอบแนวโน้มโครงสร้างสังคมชนบทเปลี่ยนมาสู่สังคมที่เป็นอุตสาหกรรม และมีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น ส่งผลให้เกิดการยอมรับการซื้อที่อยู่อาศัยคล้ายกับผู้บริโภคกรุงเทพฯ และในบางจังหวัด ก็เริ่มยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมด้วยเช่นกัน
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมจับกลุ่มคนทำงานและอยู่อาศัยจริงส่วนใหญ่ ยังคงอยู่ในหัวเมืองหลัก เช่น จ.ชลบุรี หาดใหญ่ ภูเก็ต และพัทยา เป็นต้น
"คอนโดขอนแก่น ซัพพลาย 8 พันยูนิต สะท้อนการเป็นศูนย์กลางภาคอีสาน และกาลังซื้อ ที่ยอมรับการอยู่อาศัย แบบกรุงเทพฯ มากขึ้น"
ทั้งนี้ สะท้อนได้จากภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมขอนแก่น เริ่มคึกคักเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีโครงการที่ก่อสร้างและยื่นขออนุญาตกว่า 30 โครงการ รวมกว่า 8,000 ยูนิต กระจาย 3 ทำเลหลัก คือ ถนนศรีจันทร์ ถือเป็นย่านที่มีราคาสูงสุดเฉลี่ยตรม.ละ 7 หมื่นบาท, รอบบึงแก่นนคร ตร.ม.ละ 6 หมื่นบาท และรอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตรม.ละ 5 หมื่นบาท ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม่เกิน 8 ชั้น มีเพียงโครงการ "เดอะเบส ไฮท์ มิตรภาพ" ของแสนสิริ ที่เป็นตึกสูงประมาณ 36 ชั้น สะท้อนว่าคนขอนแก่นยอมรับกับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากขึ้น
เนื่องจากขอนแก่นจัดเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเพื่อนบ้าน ประกอบลูกค้าในพื้นที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น คนรุ่นใหม่กล้าจับจ่ายใช้สอย และยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโด ส่งผลให้ความต้องการ ที่อยู่อาศัยในขอนแก่นเปลี่ยนไปมาก การคอนโดมิเนียมส่วนหนึ่งออกมาเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยจากการเปิดเออีซีนั่นเอง
จากข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ตลาดอสังหาฯ อุบลราชธานี ใน 5 - 10 ปี จะปรับเปลี่ยนจากที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นอาคารสูงใจกลางเมืองมากยิ่งขึ้น ด้วยศักยภาพของ จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่าน และประตูสู่การค้าชายแดนไทย ไปยังลาว เวียดนามและจีนตอนใต้ ประกอบกับการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ขนาดใหญ่ถึง 1.4 แสนตร.ม.บริเวณถนนเลี่ยงเมือง ส่งผลให้ราคาที่ดินในอ.เมืองและที่ดินโดยรอบศูนย์การค้าดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้น โดยบางบริเวณมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในอุดรธานี มีการเติบโตเช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการอสังหาฯ ในพื้นที่มี 22 บริษัท มีโครงการจัดสรรเปิดตัว 26 โครงการ แต่ละปีมีจำนวนบ้านที่จดทะเบียนใหม่ในตลาดราว 8,000 หน่วย ในจำนวนนี้มีทั้งโครงการจัดสรร และบ้านสร้างเองอย่างละประมาณ 50% แต่ด้วยปัจจุบันที่ดินในอุดรฯ อยู่ในมือเจ้าของที่ดินรายใหญ่ไม่กี่ราย จึงมีการตั้งราคาขายไว้สูงจนไม่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบในเมืองได้ แม้แต่การพัฒนาอาคารชุดในเมืองก็อาจจะต้องเป็นอาคารชุดราคาปานกลาง-สูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการซื้อขายเก็งกำไรที่ดินเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นปีละ 50 - 100% ปัจจุบันที่ดินใจกลางเมืองบางแปลง มีการตั้งราคาขายไว้สูงถึง 1 แสนบาทต่อตร.ว.
สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่า จ.อุดรฯ มีโครงการอสังหาฯที่อยู่ระหว่างการขาย 20 โครงการ และใน จ.อุบลฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างขาย 10 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบประมาณ 80-90% ที่เหลือเป็นโครงการแนวสูงรวมทั้ง 2 จังหวัดกว่า 3,000 หน่วย ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาโดย ผู้ประกอบการรายใหญ่
:ปี56คอนโดพัทยาเปิด1.4หมื่นยูนิต
สุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า จากตัวเลขการจดทะเบียนคอนโดมิเนียมในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าหลายจังหวัดมีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยภูเก็ต มียอดจดทะเบียนคอนโด เพิ่มขึ้น 830% หาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 169% บางแสน-ชลบุรี เพิ่มขึ้น 165% ขอนแก่น เพิ่มขึ้น 47% ส่วนเชียงใหม่ เพิ่มขึ้น 14%
โดยเฉพาะพัทยา ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่ ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจมากขึ้น เพราะด้วยศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ และการมองถึงโอกาสเป็นฐานการผลิตของต่างชาติที่จะขยายไปสู่ประเทศอาเซียน พบว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเปิดขายใหม่เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก บางโครงการปิดการขายได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการทั้งชาวไทย และต่างชาติที่มีโครงการอยู่ในพัทยาอยู่แล้วต่างก็ยังคงเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้ในปี 2556 มีคอนโดมิเนียมที่มีกำหนดแล้วเสร็จมากกว่า 14,000 ยูนิต
นอกจากนี้ พบว่าซิตี้คอนโดมิเนียมที่จะสร้างเสร็จในปี 2556-2558 มีสัดส่วนยอดขายที่เติบโตน่าสนใจเช่นเดียวกัน โดย อ.เมืองเชียงใหม่ ขายไปแล้ว 74% ขอนแก่น ขายไปแล้ว 75% หาดใหญ่ ขาย 73% อ.เมืองภูเก็ต ขาย 70% บางแสน-ชลบุรี ขายไป 64%
อิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ราคาที่ดินในขอนแก่นถีบตัวสูงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยอยู่ในอัตราเพิ่มมากกว่า 100% ต่อปี โดยเฉพาะที่ดินใจกลางเมือง บริเวณถนนศรีจันทร์ ซึ่งราคาแตะ 2 แสนบาทต่อตร.ว. ประกอบแนวโน้มโครงสร้างสังคมชนบทเปลี่ยนมาสู่สังคมที่เป็นอุตสาหกรรม และมีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี เป็นต้น ส่งผลให้เกิดการยอมรับการซื้อที่อยู่อาศัยคล้ายกับผู้บริโภคกรุงเทพฯ และในบางจังหวัด ก็เริ่มยอมรับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมด้วยเช่นกัน
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมจับกลุ่มคนทำงานและอยู่อาศัยจริงส่วนใหญ่ ยังคงอยู่ในหัวเมืองหลัก เช่น จ.ชลบุรี หาดใหญ่ ภูเก็ต และพัทยา เป็นต้น
"คอนโดขอนแก่น ซัพพลาย 8 พันยูนิต สะท้อนการเป็นศูนย์กลางภาคอีสาน และกาลังซื้อ ที่ยอมรับการอยู่อาศัย แบบกรุงเทพฯ มากขึ้น"
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น