วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

อุตฯแนะผู้ผลิตรองเท้าเพิ่มส่งออกอาเซียน


          "แอ๊ดด้า"ชี้การทาตลาดต่างประเทศต้องมีทั้งเรื่องแบรนด์ คุณภาพและ การออกแบบ
          อุตสาหกรรมแนะผู้ผลิตรองเท้าขยายส่งออกตลาดอาเซียน ปรับกลยุทธ์ผลิตสินค้าคุณภาพเพิ่มมูลค่า หลังปริมาณการผลิตลดลงต่อเนื่อง เหตุต้นทุนสูงกว่ารองเท้านำเข้า
          นายโสภณ ผลประสิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา"เปิดแนวรุกเออีซีเส้นทางรองเท้าของประเทศไทยกับกลยุทธ์ทวงคืนความเป็นแชมป์อุตสาหกรรมรองเท้าในอาเซียน" วานนี้ (5 มี.ค.)  ว่า กำลังการผลิตรองเท้าของไทยลดลงต่อเนื่อง โดยในปี 2544-2549 ไทยมีปริมาณการผลิตรองเท้าเฉลี่ยปีละ 27 ล้านคู่ โดยปัจจุบันไทยนำเข้ารองเท้าจากต่างประเทศมากขึ้น เพราะราคาถูกกว่ามาก ขณะที่ต้นทุนการผลิตรองเท้าของไทยเพิ่มขึ้นจากค่าแรง ค่าขนส่ง และราคาพลังงาน จึงผลิตรองเท้าราคาต่ำสู้กับรองเท้านำเข้าไม่ได้
          อย่างไรก็ตาม จากปริมาณการผลิตรองเท้าที่มีแนวโน้มลดลง ผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์เพราะสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในประเทศเพื่อนบ้าน จึงควรขยายตลาดส่งออกไปอาเซียนมากขึ้น เพราะตลาดสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) มีปัญหาเศรษฐกิจส่งผลให้ความต้องการสินค้าไม่เพิ่มขึ้น แต่ตลาดอาเซียนมีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น การขยายการส่งออกไปอาเซียนจะช่วยรักษากำลังการผลิตรองเท้าของไทยได้ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการไทยผลิตรองเท้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
          นายครรชิต จันทนพรชัย นายกสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมรองเท้าไทย กล่าวว่า การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)จะเกิดทั้งโอกาสและอุปสรรค ผู้ผลิตรองเท้าของไทยมีโอกาสขยายตลาดไปประเทศเพื่อนบ้านได้ แต่ผู้ผลิตในอาเซียนสามารถเข้ามาทำตลาดในไทยได้เช่นกัน จึงต้องระวังการรักษาฐานการค้าและพัฒนาสินค้าให้ต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันมีผู้ผลิตรองเท้ารายใหญ่จากอินโดนีเซียและเวียดนามต้องการส่งรองเท้าเข้ามาทำตลาดในไทยเช่นกัน
          ทั้งนี้ ผู้ผลิตรองเท้าที่ต้องการลงทุนในอาเซียนควรเริ่มจากการส่งสินค้าไปทำตลาดก่อน เมื่อมีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งจะสามารถตั้งฐานการผลิตได้ ซึ่งในเดือนพ.ค.นี้ สมาคมฯจะนำผู้ประกอบการ 30 รายไปเวียดนามเพื่อหาตลาดส่งออก โดยเวียดนามเป็นผู้ส่งออกรองเท้ารายใหญ่ของอาเซียนแต่ผู้ผลิตในเวียดนามยังไม่เน้นผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ และสินค้าที่ขายในเวียดนามส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน จึงมีช่องทางที่สินค้าไทยจะทำตลาดในเวียดนามได้ แต่คงต้องเริ่มจากสินค้าระดับล่างก่อน เพราะกำลังซื้อในเวียดนามไม่สูงมากนัก
          นายกวี พฤกษาพรพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดด้า (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ผลิตรองเท้าที่ต้องการทำตลาดในอาเซียนต้องมีสินค้าที่มีองค์ประกอบ 3 เรื่อง คือ แบรนด์ คุณภาพและการออกแบบ ถ้าไม่มี 3 ส่วนนี้การทำตลาดในต่างประเทศจะเป็นเรื่องยาก เพราะจะแข่งขันกับคู่แข่งในต่างประเทศไม่ได้ และควรทำตลาดในประเทศต่อไปเพราะเมื่อเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวจะส่งผลให้ความต้องการในประเทศเพิ่มขึ้น
          นางกัลยา กล่อมวิทย์ กรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมรองเท้าไทย กล่าวว่า การส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านในช่วงแรกควรซื้อขายด้วยเงินสดเพื่อความปลอดภัย เมื่อได้รับเงินค่าสินค้าแล้วจึงส่งสินค้า และการตั้งชื่อแบรนด์รองเท้าควรเป็นชื่อที่จดจำง่าย และควรพิจารณาการขยายตลาดสินค้าในอนาคตด้วย
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น