รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัย เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุม International Higher Education :
Faculty Marketing Innovation Forum 2013 ซึ่งจัดโดย Liquid
Learning (Asia) ณ ประเทศสิงคโปร์ ว่า
การประชุมดังกล่าวเป็นการหารือระหว่างมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนกว่า 20 สถาบัน ในแนวทางความร่วมมือในด้านต่างๆ
เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือการแข่งขันด้านตลาดการศึกษาภายหลังเปิดเสรีอาเซียนในปี
2558 ซึ่งตลาดการศึกษาจะมีขนาดใหญ่ขึ้นและการแข่งขันจะเป็นไปแบบไร้พรมแดน
ดังนั้นมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนจึงต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการรับมือกับการแข่งขันจากมหาวิทยาลัยในซีกโลกตะวันตก
ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าวได้มีการนำเสนอแบบอย่างแนวทางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จจนก้าวไปสู่ระดับโลก
อาทิ มหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National University of Singapore :
NUS) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้นำไปประยุกต์ใช้กับมหาวิทยาลัยของตนด้วย
อธิการบดี มข. กล่าวด้วยว่า การจะเดินต่อไปข้างหน้าในตลาดการศึกษา มหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนต้องสร้าง Brand ของตัวเองให้มีความโดดเด่น ขณะเดียวกันก็ต้องมี Partner ที่แข็งแรงที่มีความร่วมมือกันสร้างความแข็งแกร่งไปด้วยกัน ในอนาคตการแข่งขันโดยลำพังโดดเดี่ยวอาจไม่แข็งแรงพอที่จะสู้กับมหาวิทยาลัยดังจากอีกซีกโลกหนึ่งได้
รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะใช้ความเชี่ยวชาญและโดดเด่นใน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านสุขภาพในพื้นที่เขตร้อน 2.ด้านเกษตรเขตร้อน และ 3.ด้านเขตลุ่มน้ำโขง รวมถึงทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในอาเซียน เพื่อสร้างความพร้อมในการเปิดเสรีทางการศึกษาจากการรวมตัวของประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่จะมาถึงนี้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าวมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของมาเลเซียได้ให้ความสนใจต่อความร่วมมือด้านการแพทย์กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่างไรก็ตามแต่เดิมนั้นมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีความร่วมมือด้านต่างๆ กับมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนอยู่แล้ว แต่ภายหลังการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีความร่วมมือกันมากขึ้นและขยายวงกว้างออกไปกับอีกหลายมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยขอนแก่นยังได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพของทั้งสองมหาวิทยาลัย และเชื่อมโยงความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศต่อไป
อธิการบดี มข. กล่าวด้วยว่า การจะเดินต่อไปข้างหน้าในตลาดการศึกษา มหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนต้องสร้าง Brand ของตัวเองให้มีความโดดเด่น ขณะเดียวกันก็ต้องมี Partner ที่แข็งแรงที่มีความร่วมมือกันสร้างความแข็งแกร่งไปด้วยกัน ในอนาคตการแข่งขันโดยลำพังโดดเดี่ยวอาจไม่แข็งแรงพอที่จะสู้กับมหาวิทยาลัยดังจากอีกซีกโลกหนึ่งได้
รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะใช้ความเชี่ยวชาญและโดดเด่นใน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านสุขภาพในพื้นที่เขตร้อน 2.ด้านเกษตรเขตร้อน และ 3.ด้านเขตลุ่มน้ำโขง รวมถึงทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัย เป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในอาเซียน เพื่อสร้างความพร้อมในการเปิดเสรีทางการศึกษาจากการรวมตัวของประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่จะมาถึงนี้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าวมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของมาเลเซียได้ให้ความสนใจต่อความร่วมมือด้านการแพทย์กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่างไรก็ตามแต่เดิมนั้นมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีความร่วมมือด้านต่างๆ กับมหาวิทยาลัยในภูมิภาคอาเซียนอยู่แล้ว แต่ภายหลังการประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมีความร่วมมือกันมากขึ้นและขยายวงกว้างออกไปกับอีกหลายมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยขอนแก่นยังได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพของทั้งสองมหาวิทยาลัย และเชื่อมโยงความร่วมมือไปยังมหาวิทยาลัยในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศต่อไป
ที่มา : บ้านเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น