วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ขอนแก่นจัดใหญ่ไหมนานาชาติดึง 6 ชาติลุ่มน้ำโขงร่วม-คาดคนแห่เที่ยวอื้อ


                                                         ที่มาของภาพ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
     ขอนแก่น-จังหวัดร่วมกับกรมหม่อนไหมและททท.จัดใหญ่ "เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556" ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม ดึงกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 6 ชาติเข้าร่วม หวังยกระดับผ้าไหมไทยสู่สากล และอนุรักษ์ประเพณีผูกเสี่ยวเอกลักษณ์ชาวขอนแก่นไว้ คาดมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแห่เที่ยวมากกว่าปีที่ผ่านมา
          นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกรมหม่อนไหม จัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ปีนี้คณะกรรมการจัดงานได้เปลี่ยนรูปแบบและจุดเด่นการจัดงานให้แตกต่างจากที่ผ่านมา โดยเน้นกิจกรรมเกี่ยวกับงานไหมให้ยกระดับสู่สากลเพื่อประชาสัมพันธ์ผ้าไหมขอนแก่นออกสู่อาเซียนและนานาชาติ อาทิ การจัดแสดงผ้าไหมและสินค้าเกี่ยวกับผ้าไหมจาก 6 ชาติสมาชิกกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง คือ จีน พม่า ลาว ไทย เวียดนามและกัมพูชา
          งานไหมขอนแก่นจัดครั้งแรกเมื่อปี 2522 ต่อมาได้นำเอาประเพณีผูกเสี่ยว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวขอนแก่นและ ภาคอีสานเข้าจัดร่วมกับงานไหมในปี 2526 พร้อมกับรวมงานกาชาดเข้าด้วยจึงมีชื่อว่า "งานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดจังขอนแก่น" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และปี 2558 ไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับงานไหมขอนแก่นให้เป็นงานที่ก้าวสู่สากล จังหวัดจึงพัฒนาและยกระดับรูปแบบงานไหมขอนแก่นให้เป็นงานก้าวสู่ระดับสากลภายใต้ชื่องานว่า "เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556"
          นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า งานปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงเอกลักษณ์ความสวยงามของลายผ้าไหมขอนแก่น ยกระดับผ้าไหมขอนแก่นให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ อนุรักษณ์การผูกเสี่ยวประเพณีพื้นบ้านที่สืบทอดมายาวนานจนเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แสดงออกถึงความรักความผูกพันประดุจพี่น้อง เผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ และหารายได้ให้เหล่ากาชาดจังหวัดนำไปช่วยราษฎรที่เดือดร้อนจากภัยต่างๆ และปีนี้แม้จะพัฒนางานไหมให้ก้าวสู่สากลแต่ยังอนุรักษ์ประเพณีผูกเสี่ยวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวขอนแก่นเอาไว้ โดยมีกิจกรรมการผูกเสี่ยวที่ศาลาผูกเสี่ยวทุกคืน จังหวัดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวงานจำนวนมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
          ด้านนายสุชาติ เกติมา ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขงเปิดเผยว่า ได้เชิญ ประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเข้าร่วมประชุมวิชาการและจับคู่เจรจาธุรกิจเรื่อง "เส้นทางไหมลุ่มน้ำโขง" ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายน ที่โรงแรมราชาวดีรีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล จ.ขอนแก่น โดยมีการเสวนาและแสดงความเห็นเกี่ยวกับผ้าไหมในหัวข้อ "การค้าผ้าไหมในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ความสำคัญและการผลิตไหมสู่ตลาดสากลแนวโน้มและโอกาสการค้าในภูมิภาคและนานาชาติ นวัตกรรมการผลิตไหม" และนำผู้เข้าร่วมสัมมนาลงพื้นที่อำเภอชนบทไปเจรจาจับคู่ธุรกิจผ้าไหม เยี่ยมชมงานการผลิตผ้าไหม แลกเปลี่ยนธุรกิจไหมพร้อมกับจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากชาติสมาชิกลุ่มน้ำโขงในเทศกาลไหมนานาชาติขอนแก่น โดยแสดงบูธผ้าไหมไทยของกลุ่มจังหวัดร้อยเอ็ดขอนแก่น กาฬสินธุ์และมหาสารคาม
          นายนกรณ์ ไกรอนุพงษา ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า ได้สร้างโดม 40x80 เมตร 2 หลังตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการกระบวนการผลิตหม่อนไหมครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ตลอดจนจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตผ้าไหมและพิเศษสุดคือการแสดงชุดผ้าไหมฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และการแสดง แบบแฟชั่นผ้าไหมให้ผู้มาเที่ยวงานได้ชมใกล้ชิดในวันที่ 2 ธันวาคม และมีการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมจากจีน เวียดนาม พม่า กัมพูชา และลาว รวมทั้งผ้าไหมจากจังหวัดต่างๆ ในไทยและจังหวัดขอนแก่นกว่า 70 บูธ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของ 4 ชาติ คือ จีน เวียดนาม ลาวและไทย ณ เวทีกลางงานเทศกาลไหมนานาชาติ
          นอกจากนี้ยังมีมหกรรมอาหารนานาชาติจำหน่ายให้ผู้มาเที่ยวงานทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารเวียดนามและอาหารลาว และมีการแสดงของจังหวัดขอนแก่นและการออกสลากกาชาดด้วย

ที่มา : คม ชัด ลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น