ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่
เมื่อปลายปีที่แล้วโดยมีทั้งผลกระทบเชิงบวกกับ ตลาดคอนโดมิเนียม
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด และผลกระทบเชิงลบกับตลาดบ้านแนวราบ
อิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการจัดสรรแนวราบต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูโครงการเดิม และขาดความพร้อมใน การเปิดตัวโครงการ รวมถึงฝั่งผู้บริโภคเองยังไม่มั่นใจว่า ปีนี้น้ำจะท่วมหรือไม่ ตลาดบ้านแนวราบ จึงชะลอตัว ในครึ่งปีแรก
ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมกลับเติบโตแทนที่ กลุ่มผู้ประกอบการจึงหันไปพัฒนาอาคารสูงมีผลทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลอด 10 เดือนของปี 2555 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สัดส่วนอาคารชุดเปิดขายใหม่สูงถึง 66% หรือประมาณ 47,837 หน่วย เพิ่มขึ้นจาก ปี 2554 มากถึง 56%
ทางด้านที่อยู่อาศัยแนวราบเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดในสัดส่วนเพียง 34% หรือประมาณ 24,968 หน่วย ลดลงจากปี 2554 มากถึง 29% แต่โดยรวมแล้ว ปีนี้คาดว่า การเปิดตัวโครงการใหม่จะเติบโตประมาณ 10% หรือ มีจำนวนเปิดใหม่ประมาณ 8.3 หมื่นหน่วย
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า 9 เดือนแรก บ้านแนวราบโอนกรรมสิทธิ์ 6.4 หมื่นหน่วยคิดเป็น 58% ของการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่อาคารชุดมีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ 46,967 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 42% ลดลงจากปี 2554 ประมาณ 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยรวมแล้วในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2555 การโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบและอาคารชุดมีจำนวน 111,568 หน่วย ลดลง 9% และคาดการณ์ว่าตลอดปี 2555 จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ประมาณ 1.5 แสนหน่วย
ทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด ปีนี้เห็นภาพการขยายตัวที่ชัดเจนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแผนการขยายตัวของบริษัทมหาชน แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดเกิดเร็วขึ้น ต้องยอมรับว่าเป็นผลจากน้ำท่วม โดยตลาดหลักๆ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ชลบุรี-พัทยา ขอนแก่น-อุดรธานี นครราชสีมา หัวหิน และภูเก็ต
สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปีหน้ามีหลายปัจจัยที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะเรื่องผังเมืองรวมกรุงเทพฯฉบับใหม่ที่จะต้องประกาศ ใช้ประมาณกลางปี 2556 มีผลให้ปัจจุบันผู้ประกอบการ รายใหญ่ชะลอการซื้อที่ดินพัฒนาคอนโดมิเนียม เพราะต้องการความชัดเจนของผังเมืองก่อน
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวมีผลให้คอนโดมิเนียมที่ร้อนแรงมากในปีนี้จะชะลอตัวในปีหน้า และตลาดบ้านแนวราบ ที่เติบโตแทนที่ โดยนอกจากปัจจัยเรื่องผังเมืองแล้วสถาบันการเงินจะเข้มเรื่องการให้สินเชื่อโครงการคอนโดมิเนียม มากขึ้นด้วย
จากการประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น จึงอาจฟันธงได้เลยว่า ผังเมืองใหม่และการคุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อโครงการจะลดความร้อนแรงตลาดคอนโดมิเนียมลงและคาดว่าจะมีหน่วยเปิดขายใหม่น้อยกว่าปีนี้ หรือไม่ถึง 6.4 หมื่นหน่วย
อิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการจัดสรรแนวราบต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูโครงการเดิม และขาดความพร้อมใน การเปิดตัวโครงการ รวมถึงฝั่งผู้บริโภคเองยังไม่มั่นใจว่า ปีนี้น้ำจะท่วมหรือไม่ ตลาดบ้านแนวราบ จึงชะลอตัว ในครึ่งปีแรก
ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมกลับเติบโตแทนที่ กลุ่มผู้ประกอบการจึงหันไปพัฒนาอาคารสูงมีผลทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลอด 10 เดือนของปี 2555 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สัดส่วนอาคารชุดเปิดขายใหม่สูงถึง 66% หรือประมาณ 47,837 หน่วย เพิ่มขึ้นจาก ปี 2554 มากถึง 56%
ทางด้านที่อยู่อาศัยแนวราบเปิดตัวใหม่เข้าสู่ตลาดในสัดส่วนเพียง 34% หรือประมาณ 24,968 หน่วย ลดลงจากปี 2554 มากถึง 29% แต่โดยรวมแล้ว ปีนี้คาดว่า การเปิดตัวโครงการใหม่จะเติบโตประมาณ 10% หรือ มีจำนวนเปิดใหม่ประมาณ 8.3 หมื่นหน่วย
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า 9 เดือนแรก บ้านแนวราบโอนกรรมสิทธิ์ 6.4 หมื่นหน่วยคิดเป็น 58% ของการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่อาคารชุดมีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ 46,967 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 42% ลดลงจากปี 2554 ประมาณ 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยรวมแล้วในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2555 การโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบและอาคารชุดมีจำนวน 111,568 หน่วย ลดลง 9% และคาดการณ์ว่าตลอดปี 2555 จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ประมาณ 1.5 แสนหน่วย
ทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด ปีนี้เห็นภาพการขยายตัวที่ชัดเจนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแผนการขยายตัวของบริษัทมหาชน แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้ตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดเกิดเร็วขึ้น ต้องยอมรับว่าเป็นผลจากน้ำท่วม โดยตลาดหลักๆ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ชลบุรี-พัทยา ขอนแก่น-อุดรธานี นครราชสีมา หัวหิน และภูเก็ต
สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปีหน้ามีหลายปัจจัยที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะเรื่องผังเมืองรวมกรุงเทพฯฉบับใหม่ที่จะต้องประกาศ ใช้ประมาณกลางปี 2556 มีผลให้ปัจจุบันผู้ประกอบการ รายใหญ่ชะลอการซื้อที่ดินพัฒนาคอนโดมิเนียม เพราะต้องการความชัดเจนของผังเมืองก่อน
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวมีผลให้คอนโดมิเนียมที่ร้อนแรงมากในปีนี้จะชะลอตัวในปีหน้า และตลาดบ้านแนวราบ ที่เติบโตแทนที่ โดยนอกจากปัจจัยเรื่องผังเมืองแล้วสถาบันการเงินจะเข้มเรื่องการให้สินเชื่อโครงการคอนโดมิเนียม มากขึ้นด้วย
จากการประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น จึงอาจฟันธงได้เลยว่า ผังเมืองใหม่และการคุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อโครงการจะลดความร้อนแรงตลาดคอนโดมิเนียมลงและคาดว่าจะมีหน่วยเปิดขายใหม่น้อยกว่าปีนี้ หรือไม่ถึง 6.4 หมื่นหน่วย
ที่มา : โพสต์ทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น