DRT ดันขอนแก่นเป็นฮับกระจายสินค้า ผุดโรงงานตลาดอีสาน-ลาว

 นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่า ตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2556 จะ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการลงทุนของ ภาครัฐ ประกอบกับการที่ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีการ ลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งในปี 2556 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ รายใหญ่หลายรายหันไปลงทุนโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการขยายตัวของสินค้าวัสดุก่อสร้างในกลุ่มกระเบื้องหลังคาคอนกรีต และกลุ่มไม้สังเคราะห์ มีโอกาสเติบโตได้สูงถึง 2 หลัก

ในขณะเดียวกันการเติบโตและขยายตัวของผู้ประกอบ ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่(โมเดิร์นเทรด) ที่ลงทุนขยายสาขาใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสทำตลาดเติบโต และผลักดันยอดขาย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในปี 2555 ยอดขายผ่านโมเดิร์นเทรดมีสัดส่วนประมาณ 10% หรือประมาณ 300 ล้านบาท โดยยอดขายกว่า 250 ล้านบาท มาจาก "ไทวัสดุ" จากก่อนหน้านี้ยอดขายผ่านโมเดิร์นเทรดจะมีสัดส่วนเพียง 2-3% เท่านั้น
               ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตและบริหารจัดการต้นทุนการขนส่งสินค้า พร้อมการเพิ่มบริการให้แก่ลูกค้าในต่างจังหวัด รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตนั้น ในปี 2556 นี้บริษัท ได้เตรียมงบลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนต่อเนื่องจากปี 2555 ประมาณ 750 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบลงทุนใหม่ในปี 2556 รวมถึงโครงการก่อสร้างโรงงานและคลัง สินค้าขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ประมาณ 27 ไร่ ในจังหวัดขอนแก่น ใช้งบลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งจะมีการย้ายสาย (ไลน์) การผลิตหลังคาคอนกรีต 1 ไลน์ ที่อยู่ในโรงงานจังหวัดสระบุรีไปอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น
          "คลังสินค้าที่ขอนแก่นจะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าหรือเป็น ฮับ ที่จะช่วยกระจายสินค้าไปยังจังหวัด ใกล้เคียง ผ่านไปยังอุดรธานี และต่อเนื่องไปถึงลาว ซึ่งการสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่ นั้น จะมีสินค้ารองรับความต้องการของลูกค้าในต่างจังหวัด ขณะที่ไลน์การผลิตที่ย้ายไปจากสระบุรี คาดว่าจะดำเนินการ ได้ไตรมาส 2 โดยจะมีผลต่อการบริหาร การขนส่ง บริหารต้นทุน บริหารแรงงาน" นายสาธิต กล่าว
          นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมจะผลักดันอิฐมวลเบาเข้ามาทำตลาด หลังจากคาดว่า โรงงานที่จังหวัดสระบุรีจะก่อสร้างแล้วเสร็จในกลางปี 2556 โดยสินค้าดังกล่าวจะเข้าเติมความแข็งแกร่งให้กับ "ตราเพชร" เพื่อรุกเจาะลูกค้าโครงการที่ต้องการลดใช้แรงงานและขั้นตอนก่ออิฐฉาบปูนลง หลังจากต้นทุนค่าแรงปรับเพิ่มขึ้นและแรงงานภาคก่อสร้างขาดแคลน ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องมองหาวัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้าง ทั้งนี้ถ้าเดินเต็มกำลังผลิตน่าจะมียอดขายประมาณ 500-600 ล้านบาท แต่คาดว่าเฉพาะครึ่งปีแรกน่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 200 ล้านบาท ก็พอใจแล้ว

ที่มา : แนวหน้า