นายธนันทร์เอก
หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชบี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) เปิดเผยว่า
สถานการณ์ของตลาดบริหารอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรปีที่ผ่านมามีการแข่งขันสูงมาก
เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ผู้ประกอบการได้ให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพย์สินในโครงการ
เพื่อรักษาภาพลักษณ์และคงไว้ซึ่งมูลค่าของทรัพย์สิน
ทั้งนี้ การขยายตัวของตลาดดังกล่าวได้มีการแข่งขันรุนแรงทั้งในทำเลกรุงเทพฯ เมืองท่องเที่ยว และจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจของฝ่ายการตลาดพบว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เห็นความสำคัญของการบริหารชุมชนและต้องการใช้บริการกับมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารและจัดการหลังการขาย จากเดิมที่เคยบริหารกันเองแล้วประสบปัญหาต่างๆ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้อาคารและทรัพย์สินภายในโครงการบ้านจัดสรรด้อยมูลค่าลง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านบริหารและจัดการอาคารและชุมชนเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าในปี 2556 ตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น และทำให้ธุรกิจเหล่านี้มีการปรับตัวและพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า จะทำให้โครงการจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่ตัดสินใจเลือกใช้บริการมืออาชีพจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันดังกล่าว เนื่องจากรูปแบบการทำงานจะให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานการทำงานให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในระดับสากลมากขึ้น
"ในส่วนของ HBIRM ได้ให้ความสำคัญกับระบบการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านและอาคารสูง ทั้งเรื่องของการพัฒนาบุคลากร การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาบริการลูกค้า รวมทั้งความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายต่างๆ ที่ลูกค้าไม่เข้าใจ เพื่อป้องกันมิให้ถูกดำเนินคดีหรือฟ้องร้องในภายหลัง" นายธนันทร์เอก กล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินการที่ผ่านมามีอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรที่เข้ามาใช้บริการ HBIRM กว่า 100 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุด 67% หมู่บ้านจัดสรร 33% สำหรับในปี 2556 บริษัทได้ตั้งเป้าว่าจะมีอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรในทำเลต่างๆ เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 50 โครงการ ดังนี้ ทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 20 โครงการ ทำเลพัทยา จำนวน 5 โครงการ หัวหินและชะอำ จำนวน 5 โครงการ ทำเลขอนแก่นและภาคอีสาน จำนวน 10 โครงการ
ทั้งนี้ การขยายตัวของตลาดดังกล่าวได้มีการแข่งขันรุนแรงทั้งในทำเลกรุงเทพฯ เมืองท่องเที่ยว และจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจของฝ่ายการตลาดพบว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เห็นความสำคัญของการบริหารชุมชนและต้องการใช้บริการกับมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารและจัดการหลังการขาย จากเดิมที่เคยบริหารกันเองแล้วประสบปัญหาต่างๆ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้อาคารและทรัพย์สินภายในโครงการบ้านจัดสรรด้อยมูลค่าลง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านบริหารและจัดการอาคารและชุมชนเกิดขึ้นค่อนข้างมาก เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าในปี 2556 ตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น และทำให้ธุรกิจเหล่านี้มีการปรับตัวและพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า จะทำให้โครงการจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่ตัดสินใจเลือกใช้บริการมืออาชีพจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันดังกล่าว เนื่องจากรูปแบบการทำงานจะให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานการทำงานให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในระดับสากลมากขึ้น
"ในส่วนของ HBIRM ได้ให้ความสำคัญกับระบบการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านและอาคารสูง ทั้งเรื่องของการพัฒนาบุคลากร การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาบริการลูกค้า รวมทั้งความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายต่างๆ ที่ลูกค้าไม่เข้าใจ เพื่อป้องกันมิให้ถูกดำเนินคดีหรือฟ้องร้องในภายหลัง" นายธนันทร์เอก กล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินการที่ผ่านมามีอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรที่เข้ามาใช้บริการ HBIRM กว่า 100 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุด 67% หมู่บ้านจัดสรร 33% สำหรับในปี 2556 บริษัทได้ตั้งเป้าว่าจะมีอาคารสูงและหมู่บ้านจัดสรรในทำเลต่างๆ เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 50 โครงการ ดังนี้ ทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 20 โครงการ ทำเลพัทยา จำนวน 5 โครงการ หัวหินและชะอำ จำนวน 5 โครงการ ทำเลขอนแก่นและภาคอีสาน จำนวน 10 โครงการ
ที่มา : บ้านเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น