ภาคอีสาน
เป็นดินแดนที่ราบสูง
ซึ่งมีโบราณสถานสำคัญมากมายอันบอกเล่าถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามด้วยรูปลักษณ์เฉพาะตัว
ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์ของท้องถิ่นที่เราสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี
เริ่มเปิดประตูสู่แดนอีสานกันที่ เมืองย่าโม จังหวัดนครราชสีมา กับสวนมหัศจรรย์ ณ "สวนซ่อนศิลป์" (Secret Art Garden) ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ตลาดน้ำศิลปะกลางดง ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับแห่งธรรมชาติและศาสตร์แห่งศิลป์ที่ถูกปัดฝุ่นแล้วบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นใหม่หลังจากถูกคืนวันพัดเลือนหายไปนานหลายปี แต่ยังคงไว้ในความน่าหลงใหลทางศิลปะจากธรรมชาติที่ไม่ใช่เพียงแค่บรรยากาศร่มรื่น ดอกไม้สีสวย เสียงจักจั่นเรไรเท่านั้น นักท่องเที่ยวยังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมศิลป์มากมาย อาทิ บ้านนักเขียน บ้านจิตรกรวาดภาพ บ้านทอผ้า บ้านช่างปั้นดิน บ้านช่างเย็บผ้า และหลากหลายประติมากรรมน่ารักภายในสวนที่เนรมิตให้เป็นมุมถ่ายภาพที่ระลึก
จากสวนซ่อนศิลป์สามารถเดินลัดเลาะไปชมริมน้ำลำตะคองที่เข้าใกล้แดนอีสานมากขึ้น ห่างจากตัวเมืองแค่ 20 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้พบกับร่องรอยประวัติศาสตร์ ความรุ่งเรืองด้านวัฒนธรรมและอารยธรรมของชุมชนชาวอีสานใต้ ณ "ปราสาทหินพิมาย" ซึ่งเป็นปราสาทหินทรายสีขาวแห่งเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จารึกความเก่าแก่ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 16-17 ในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอมและความลี้ลับน่าค้นหามากมายภายในปราสาทหินพิมาย
เดินทางต่อไปยัง เมืองแคนแดนอีสาน จังหวัดขอนแก่น ที่โด่งดังมายาวนานด้านวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติที่มีป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ อาทิ อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขตรอยต่อระหว่างอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น กับอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ลักษณะเป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่มีหน้าผาตัดตรงดิ่งลงเป็นริ้วคล้ายผ้าม่านที่เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ พืชพรรณ สัตว์ป่า ผาถ้ำ น้ำตก รวมถึงอากาศที่เย็นบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี และยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย อาทิ เดินป่า ปั่นจักรยาน ดูพระอาทิตย์ตก นอนกางเต็นท์ นั่งนับดาวบนภูรับอากาศเย็น ๆ
ตามต่อด้วย "ถ้ำพญานาคราช"ซึ่งเป็นถ้ำอันดับ 1 ที่มีความสวยงามมากที่สุดภายในอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เป็นเส้นทางท้าความอึดของนักเดินป่าเพื่อความคุ้มค่าแห่งแสงประกายระยิบระยับวับวาวจากเกล็ดแก้วแร่แวววาวของหินงอกหินย้อยภายในระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยเฉพาะห้องโถงใหญ่ที่มีม่านหินย้อยขนาดใหญ่ห้อยจากเพดานสูงแล้วแผ่กว้างออกดูสวยงามตระการตา
สำหรับ "ผ้าไหม ผ้าหมี่ขิด" นับเป็นวิถีแห่งการถักทอผืนผ้าอันทรงคุณค่าของแดนอีสานที่ไม่เพียงแค่คุณภาพของเนื้อไหมและความละเอียดประณีตในการถักทอ แต่หมายถึงเอกลักษณ์ในการสร้างลวดลายเพื่อให้มีความหลากหลายแต่ยังคงอยู่ด้วยเอกลักษณ์แห่งท้องถิ่นอีสานแท้กับผ้าไหมทอมือ ผ้าหมี่ ผ้ามัดหมี่ ฯลฯ ที่มีให้เห็นในหลายจังหวัดภาคอีสาน โดยเฉพาะ "หมู่บ้านทอผ้าไหมอำเภอชนบท" จังหวัดขอนแก่น มีตำนานผ้าไหมอีสานที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 200 ปี ที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษสร้างเอกลักษณ์และชื่อเสียงคู่เมืองขอนแก่นมาจนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ และเมื่อเดินทางออกจากเมืองแคนขอนแก่นอย่าลืมแวะอำเภอเขาสวนกวาง ซื้อ ไก่ย่างสวนกวาง ชื่อดัง ด้วยการคัดเลือกไก่เนื้อแน่นจากฟาร์มของเขาสวนกวางเท่านั้นปรุงด้วยสูตรลับเฉพาะ ถือเป็นไก่ย่างที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศ
ถัดมาเข้าสู่ ดินแดนแห่งทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี โดย 'ทะเลบัวแดงหนองหาน กุมภวาปี" ถือเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 22,500 ไร่ อัดแน่นไปด้วยดอกบัวสีแดง-ชมพู เบ่งบานเต็มบึงที่ออกดอกสวยงามมากในช่วงเดือนตุลาคมมีนาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชาวบ้านพายล่องชมทะเลบัวแดง นอกจากนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังเตรียมจัดงาน "เทศกาลวิวาห์ล้านบัว" ครั้งแรกในวันวาเลนไทน์ปี พ.ศ. 2556 นี้กับการจดทะเบียนสมรสกลางทะเลบัวแดงนับล้านดอกและมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกพันมั่นรักตามประเพณีพื้นบ้านอีสาน ด้วย และหากใครหิวต้องไม่ลืมแวะชิม ไข่กระทะ ขนมปังญวน ข้าวเปียก ณ ตลาดเช้าริมหนองประจักษ์อุดรธานี
สิ้นสุดจุดหมายปลายทางของการมาเที่ยวดินแดนอีสานที่ จังหวัดหนองคาย เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่มากด้วยสิ่งมหัศจรรย์ มีอาณาเขตอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว ซึ่ง จังหวัดหนองคายเป็นเมืองที่มีการสำรวจให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก และเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของภาคอีสาน ด้วยความที่เป็นเมืองเล็ก แต่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมเก่าแก่มายาวนานทั้งประเพณี สิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรม วิถีชีวิต แม้จะมีความเจริญเข้ามาเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของชาวหนองคายไม่น้อยก็ตาม และสิ่งที่มองเห็นได้ชัดคือแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะสิ่งมหัศจรรย์กับปรากฏการณ์ 1 ปีมีครั้งเดียว ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ชม "บั้งไฟพญานาค" ลูกไฟประหลาดสีแดงส้มที่พวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขงซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศแห่ไปชมกันอย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัดวาอาราม
จากเรื่องเล่าของแดนอีสานทั้งหมดถือเป็นความมหัศจรรย์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน แต่สามารถสัมผัสและเห็นได้ด้วยตา หากเราเริ่มออกเดินทางไปค้นหาแล้วจะพบว่า 'คมขวานไทย.อีสานบ้านเฮาม่วนได้ทุกฤดูกาล.
เชิญเที่ยวชมงาน 'เทศกาลอีสาน 2556 ม่วนแซบอีหลี มีดีที่อีสาน'
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอเชิญร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของแดนอีสาน ภายใต้คอนเซปต์ "อีสาน แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม" โปรเจคท์ท่องเที่ยวยิ่งใหญ่เอาใจขาเที่ยวต้อนรับต้นปี พ.ศ. 2556 กับงาน "เทศกาลเที่ยวอีสาน 2556" (Amazing I-san fair 2013) โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ภายในงานมีกิจกรรมที่จะทำให้ผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทุกท่านได้สัมผัสวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและประวัติศาสตร์อันยาวนานของอีสาน ที่มุ่งเน้นเส้นทางการท่องเที่ยวและสินค้าเด่นของแต่ละจังหวัด อาหารอีสานรสแซบจากออริจินอล มนต์เสน่ห์แห่งดินแดนลุ่มน้ำโขงที่ทุกคนต้องไปสัมผัสสักครั้งและจะประทับใจ โดยภายในงานจำลอง 6 โซนมหัศจรรย์ ได้แก่ 1. โซนเลิศล้ำงานศิลป์ ถิ่นประเพณี กิจกรรมไฮไลต์ได้แก่ จำลองสิม อีสาน ประเพณีบุญแห่กระธูป ประเพณีแห่ต้นดอกไม้ ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก เทียนพรรษาจิ๋ว 2. โซนศรัทธา บารมี อริยสงฆ์ กิจกรรมไฮไลต์คือ สักการะรูปหล่อพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสัมปันโน) 3. โซนชิคแอนด์ชิลอีสาน 4. โซนเสน่ห์ วิถีชุมชน สังคมอีสาน 5. โซนถักทอคุณค่า ผืนผ้าแดนอีสาน และ 6. โซนตลาดอีสานแซบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงและการสาธิตจากแหล่งชุมชนแดนอีสาน เช่น การสาธิตการทำตุ้มนกตุ้มหู การสาธิตการทอผ้าไหม และพบกับบูธแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท สายการบิน รายการนำเที่ยว บริษัททัวร์ รวมถึงการจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ผ้าไหมจากจังหวัดต่างๆ ของที่ระลึกของภาคอีสาน ร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์อีสานได้ ระหว่างวันที่ 24-27 มกราคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ห้องเพลนารี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วคุณจะรู้ว่าเที่ยวอีสานม่วนแซบอีหลีเด้อ
เริ่มเปิดประตูสู่แดนอีสานกันที่ เมืองย่าโม จังหวัดนครราชสีมา กับสวนมหัศจรรย์ ณ "สวนซ่อนศิลป์" (Secret Art Garden) ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ตลาดน้ำศิลปะกลางดง ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับแห่งธรรมชาติและศาสตร์แห่งศิลป์ที่ถูกปัดฝุ่นแล้วบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นใหม่หลังจากถูกคืนวันพัดเลือนหายไปนานหลายปี แต่ยังคงไว้ในความน่าหลงใหลทางศิลปะจากธรรมชาติที่ไม่ใช่เพียงแค่บรรยากาศร่มรื่น ดอกไม้สีสวย เสียงจักจั่นเรไรเท่านั้น นักท่องเที่ยวยังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมศิลป์มากมาย อาทิ บ้านนักเขียน บ้านจิตรกรวาดภาพ บ้านทอผ้า บ้านช่างปั้นดิน บ้านช่างเย็บผ้า และหลากหลายประติมากรรมน่ารักภายในสวนที่เนรมิตให้เป็นมุมถ่ายภาพที่ระลึก
จากสวนซ่อนศิลป์สามารถเดินลัดเลาะไปชมริมน้ำลำตะคองที่เข้าใกล้แดนอีสานมากขึ้น ห่างจากตัวเมืองแค่ 20 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้พบกับร่องรอยประวัติศาสตร์ ความรุ่งเรืองด้านวัฒนธรรมและอารยธรรมของชุมชนชาวอีสานใต้ ณ "ปราสาทหินพิมาย" ซึ่งเป็นปราสาทหินทรายสีขาวแห่งเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จารึกความเก่าแก่ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 16-17 ในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอมและความลี้ลับน่าค้นหามากมายภายในปราสาทหินพิมาย
เดินทางต่อไปยัง เมืองแคนแดนอีสาน จังหวัดขอนแก่น ที่โด่งดังมายาวนานด้านวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติที่มีป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ อาทิ อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขตรอยต่อระหว่างอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น กับอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ลักษณะเป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่มีหน้าผาตัดตรงดิ่งลงเป็นริ้วคล้ายผ้าม่านที่เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ พืชพรรณ สัตว์ป่า ผาถ้ำ น้ำตก รวมถึงอากาศที่เย็นบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี และยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย อาทิ เดินป่า ปั่นจักรยาน ดูพระอาทิตย์ตก นอนกางเต็นท์ นั่งนับดาวบนภูรับอากาศเย็น ๆ
ตามต่อด้วย "ถ้ำพญานาคราช"ซึ่งเป็นถ้ำอันดับ 1 ที่มีความสวยงามมากที่สุดภายในอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เป็นเส้นทางท้าความอึดของนักเดินป่าเพื่อความคุ้มค่าแห่งแสงประกายระยิบระยับวับวาวจากเกล็ดแก้วแร่แวววาวของหินงอกหินย้อยภายในระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยเฉพาะห้องโถงใหญ่ที่มีม่านหินย้อยขนาดใหญ่ห้อยจากเพดานสูงแล้วแผ่กว้างออกดูสวยงามตระการตา
สำหรับ "ผ้าไหม ผ้าหมี่ขิด" นับเป็นวิถีแห่งการถักทอผืนผ้าอันทรงคุณค่าของแดนอีสานที่ไม่เพียงแค่คุณภาพของเนื้อไหมและความละเอียดประณีตในการถักทอ แต่หมายถึงเอกลักษณ์ในการสร้างลวดลายเพื่อให้มีความหลากหลายแต่ยังคงอยู่ด้วยเอกลักษณ์แห่งท้องถิ่นอีสานแท้กับผ้าไหมทอมือ ผ้าหมี่ ผ้ามัดหมี่ ฯลฯ ที่มีให้เห็นในหลายจังหวัดภาคอีสาน โดยเฉพาะ "หมู่บ้านทอผ้าไหมอำเภอชนบท" จังหวัดขอนแก่น มีตำนานผ้าไหมอีสานที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 200 ปี ที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษสร้างเอกลักษณ์และชื่อเสียงคู่เมืองขอนแก่นมาจนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ และเมื่อเดินทางออกจากเมืองแคนขอนแก่นอย่าลืมแวะอำเภอเขาสวนกวาง ซื้อ ไก่ย่างสวนกวาง ชื่อดัง ด้วยการคัดเลือกไก่เนื้อแน่นจากฟาร์มของเขาสวนกวางเท่านั้นปรุงด้วยสูตรลับเฉพาะ ถือเป็นไก่ย่างที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศ
ถัดมาเข้าสู่ ดินแดนแห่งทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี โดย 'ทะเลบัวแดงหนองหาน กุมภวาปี" ถือเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 22,500 ไร่ อัดแน่นไปด้วยดอกบัวสีแดง-ชมพู เบ่งบานเต็มบึงที่ออกดอกสวยงามมากในช่วงเดือนตุลาคมมีนาคมของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือชาวบ้านพายล่องชมทะเลบัวแดง นอกจากนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังเตรียมจัดงาน "เทศกาลวิวาห์ล้านบัว" ครั้งแรกในวันวาเลนไทน์ปี พ.ศ. 2556 นี้กับการจดทะเบียนสมรสกลางทะเลบัวแดงนับล้านดอกและมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ ผูกพันมั่นรักตามประเพณีพื้นบ้านอีสาน ด้วย และหากใครหิวต้องไม่ลืมแวะชิม ไข่กระทะ ขนมปังญวน ข้าวเปียก ณ ตลาดเช้าริมหนองประจักษ์อุดรธานี
สิ้นสุดจุดหมายปลายทางของการมาเที่ยวดินแดนอีสานที่ จังหวัดหนองคาย เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ที่มากด้วยสิ่งมหัศจรรย์ มีอาณาเขตอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว ซึ่ง จังหวัดหนองคายเป็นเมืองที่มีการสำรวจให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก และเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 1 ของภาคอีสาน ด้วยความที่เป็นเมืองเล็ก แต่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมเก่าแก่มายาวนานทั้งประเพณี สิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรม วิถีชีวิต แม้จะมีความเจริญเข้ามาเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของชาวหนองคายไม่น้อยก็ตาม และสิ่งที่มองเห็นได้ชัดคือแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะสิ่งมหัศจรรย์กับปรากฏการณ์ 1 ปีมีครั้งเดียว ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ชม "บั้งไฟพญานาค" ลูกไฟประหลาดสีแดงส้มที่พวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขงซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศแห่ไปชมกันอย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัดวาอาราม
จากเรื่องเล่าของแดนอีสานทั้งหมดถือเป็นความมหัศจรรย์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน แต่สามารถสัมผัสและเห็นได้ด้วยตา หากเราเริ่มออกเดินทางไปค้นหาแล้วจะพบว่า 'คมขวานไทย.อีสานบ้านเฮาม่วนได้ทุกฤดูกาล.
เชิญเที่ยวชมงาน 'เทศกาลอีสาน 2556 ม่วนแซบอีหลี มีดีที่อีสาน'
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขอเชิญร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของแดนอีสาน ภายใต้คอนเซปต์ "อีสาน แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม" โปรเจคท์ท่องเที่ยวยิ่งใหญ่เอาใจขาเที่ยวต้อนรับต้นปี พ.ศ. 2556 กับงาน "เทศกาลเที่ยวอีสาน 2556" (Amazing I-san fair 2013) โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ภายในงานมีกิจกรรมที่จะทำให้ผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวทุกท่านได้สัมผัสวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและประวัติศาสตร์อันยาวนานของอีสาน ที่มุ่งเน้นเส้นทางการท่องเที่ยวและสินค้าเด่นของแต่ละจังหวัด อาหารอีสานรสแซบจากออริจินอล มนต์เสน่ห์แห่งดินแดนลุ่มน้ำโขงที่ทุกคนต้องไปสัมผัสสักครั้งและจะประทับใจ โดยภายในงานจำลอง 6 โซนมหัศจรรย์ ได้แก่ 1. โซนเลิศล้ำงานศิลป์ ถิ่นประเพณี กิจกรรมไฮไลต์ได้แก่ จำลองสิม อีสาน ประเพณีบุญแห่กระธูป ประเพณีแห่ต้นดอกไม้ ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก เทียนพรรษาจิ๋ว 2. โซนศรัทธา บารมี อริยสงฆ์ กิจกรรมไฮไลต์คือ สักการะรูปหล่อพระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสัมปันโน) 3. โซนชิคแอนด์ชิลอีสาน 4. โซนเสน่ห์ วิถีชุมชน สังคมอีสาน 5. โซนถักทอคุณค่า ผืนผ้าแดนอีสาน และ 6. โซนตลาดอีสานแซบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงและการสาธิตจากแหล่งชุมชนแดนอีสาน เช่น การสาธิตการทำตุ้มนกตุ้มหู การสาธิตการทอผ้าไหม และพบกับบูธแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท สายการบิน รายการนำเที่ยว บริษัททัวร์ รวมถึงการจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ผ้าไหมจากจังหวัดต่างๆ ของที่ระลึกของภาคอีสาน ร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์อีสานได้ ระหว่างวันที่ 24-27 มกราคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ห้องเพลนารี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วคุณจะรู้ว่าเที่ยวอีสานม่วนแซบอีหลีเด้อ
ที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น