ธอส.จุดพลุบุกปล่อยกู้โครงการอสังหาฯ
เล็งโค้งท้ายพาเหรดสินเชื่อเดือนละ 1.3 หมื่นล้าน
มั่นใจดันยอดทะลุเป้าแสนล้านสบาย ด้านไทยพาณิชย์ไม่น้อยหน้า เร่งปั้นดีลรับ Q4
หวังโกยมาร์เก็ตแชร์ขึ้นเบอร์ 1 โบรกฯชี้แบงก์เกียรตินาคินสินเชื่ออสังหาฯโตกระโดด
25% นายวรวิทย์
ชัยลิมปมนตรี กรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยกับ
"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วงไตรมาส 4 นี้
สัญญาณการขยายตัวสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ ขนาดใหญ่มียอดอนุมัติสินเชื่อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกจำนวนมาก
ซึ่งธนาคารมีสินเชื่อที่รออนุมัติอยู่มากพอสมควร โดยยอดสินเชื่อโครงการอสังหาฯ
ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะสูงถึงเดือนละ 1.2-1.3
หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ สัญญาณการปล่อยกู้โครงการ อสังหาริมทรัพย์ เริ่มขยายตัวสูงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดย ธอส.ปล่อยสินเชื่อได้เดือนละกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากปกติเฉลี่ยเดือนละ 7-8 พันล้านบาทเท่านั้น ทำให้สิ้นเดือน ก.ย. ธนาคารปล่อยสินเชื่อแล้วเกือบ 7 หมื่นล้านบาท และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะปล่อยสินเชื่อได้เกินเป้าหมายที่ 1 แสนล้านบาท เติบโตสูงกว่า 10% อย่างแน่นอน "ปกติช่วงโค้งท้ายจะถือเป็นไฮซีซั่น ของ อสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่ที่จะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป ทำให้ดีเวลล็อปเปอร์เริ่มมาขอสินเชื่อตั้งแต่ตอนนี้ นอกจากกรณี ธอส. แล้ว ธนาคารพาณิชย์รายอื่น ๆ ก็น่าจะมียอดอนุมัติสินเชื่อกลุ่มนี้สูงขึ้นเช่นกัน ประกอบกับภาคธุรกิจเริ่มคลายกังวลเรื่องน้ำท่วมแล้ว ยิ่งทำให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาตื่นตัวมากยิ่งขึ้น" นายวรวิทย์กล่าว
ด้านนายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายลูกค้าขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นธุรกิจรายใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ามาขอสินเชื่อผ่านระบบธนาคารพาณิชย์มากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดจะขยายตัวสูงกว่าไตรมาสอื่น ๆ "ภาพรวมความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอยู่สูง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองต่างจังหวัด ส่งผลให้สินเชื่อโครงการใหญ่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายฐานสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เติบโต 10-12% โดยมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 47,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 27-28% ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1"
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาธนาคารได้อนุมัติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ อาทิ คอนโดมิเนียม "อินซิโอ" ถ.เสรีไทย มูลค่า 337 ล้านบาท, โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น Plex-Bangna 238 ยูนิต มูลค่า 560 ล้านบาท, โครงการ "กันยารัตน์ เลควิวล์ คอนโดมิเนียม และอเวนิวมอลล์" จ.ขอนแก่น มูลค่า 409.5 ล้านบาท และโครงการ "เดอะ เวเนเซีย" จ.เพชรบุรี มูลค่า 1,200 ล้านบาท "การขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ยังเพิ่มขึ้นชัดเจน เนื่องจากดีเวลอปเปอร์เริ่มมั่นใจว่าจะไม่เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว ทำให้เร่งทำดีลโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมเริ่มในต้นปีหน้า จึงทำให้เห็นภาพการขอสินเชื่อช่วงท้ายปีเติบโตขึ้น" นายสารัชต์กล่าว ด้านธนาคารเกียรตินาคินซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายสำคัญในการปล่อยสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์นั้น บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ของธนาคารซึ่งมีพอร์ตส่วนใหญ่อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังมี แนวโน้มค่อนข้างดี โดยจะเห็นได้จากเดือนสิงหาคมที่มีอัตราการขยายตัว 2% เทียบเดือนก่อนหน้า และขยายตัว 12.8% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งน่า จะเป็นแรงผลักดันที่มาสนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ที่น่าจะขึ้นไปได้สูงถึง 25% สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 21%
ทั้งนี้ สัญญาณการปล่อยกู้โครงการ อสังหาริมทรัพย์ เริ่มขยายตัวสูงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดย ธอส.ปล่อยสินเชื่อได้เดือนละกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากปกติเฉลี่ยเดือนละ 7-8 พันล้านบาทเท่านั้น ทำให้สิ้นเดือน ก.ย. ธนาคารปล่อยสินเชื่อแล้วเกือบ 7 หมื่นล้านบาท และมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะปล่อยสินเชื่อได้เกินเป้าหมายที่ 1 แสนล้านบาท เติบโตสูงกว่า 10% อย่างแน่นอน "ปกติช่วงโค้งท้ายจะถือเป็นไฮซีซั่น ของ อสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่ที่จะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป ทำให้ดีเวลล็อปเปอร์เริ่มมาขอสินเชื่อตั้งแต่ตอนนี้ นอกจากกรณี ธอส. แล้ว ธนาคารพาณิชย์รายอื่น ๆ ก็น่าจะมียอดอนุมัติสินเชื่อกลุ่มนี้สูงขึ้นเช่นกัน ประกอบกับภาคธุรกิจเริ่มคลายกังวลเรื่องน้ำท่วมแล้ว ยิ่งทำให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์กลับมาตื่นตัวมากยิ่งขึ้น" นายวรวิทย์กล่าว
ด้านนายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายลูกค้าขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นธุรกิจรายใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ามาขอสินเชื่อผ่านระบบธนาคารพาณิชย์มากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดจะขยายตัวสูงกว่าไตรมาสอื่น ๆ "ภาพรวมความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอยู่สูง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองต่างจังหวัด ส่งผลให้สินเชื่อโครงการใหญ่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายฐานสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เติบโต 10-12% โดยมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 47,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 27-28% ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1"
ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาธนาคารได้อนุมัติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ อาทิ คอนโดมิเนียม "อินซิโอ" ถ.เสรีไทย มูลค่า 337 ล้านบาท, โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น Plex-Bangna 238 ยูนิต มูลค่า 560 ล้านบาท, โครงการ "กันยารัตน์ เลควิวล์ คอนโดมิเนียม และอเวนิวมอลล์" จ.ขอนแก่น มูลค่า 409.5 ล้านบาท และโครงการ "เดอะ เวเนเซีย" จ.เพชรบุรี มูลค่า 1,200 ล้านบาท "การขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ยังเพิ่มขึ้นชัดเจน เนื่องจากดีเวลอปเปอร์เริ่มมั่นใจว่าจะไม่เกิดน้ำท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว ทำให้เร่งทำดีลโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมเริ่มในต้นปีหน้า จึงทำให้เห็นภาพการขอสินเชื่อช่วงท้ายปีเติบโตขึ้น" นายสารัชต์กล่าว ด้านธนาคารเกียรตินาคินซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายสำคัญในการปล่อยสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์นั้น บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ของธนาคารซึ่งมีพอร์ตส่วนใหญ่อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังมี แนวโน้มค่อนข้างดี โดยจะเห็นได้จากเดือนสิงหาคมที่มีอัตราการขยายตัว 2% เทียบเดือนก่อนหน้า และขยายตัว 12.8% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งน่า จะเป็นแรงผลักดันที่มาสนับสนุนการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ที่น่าจะขึ้นไปได้สูงถึง 25% สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 21%
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น