ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่หันไปพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น
เริ่มจากหัวเมืองหลักในภูมิภาคต่างๆ จากเดิมที่ลงทุนเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
ซึ่งทิศทางการลงทุนเช่นนี้จะขยายตัวต่อเนื่องออกไปอีกมาก
เนื่องจากตลาดในกรุงเทพฯและปริมณฑลขนาดเริ่มเล็กลงเมื่อเทียบกับความต้องการเติบโตทุกปีของผู้ประกอบการรายใหญ่
เป้าหมายของบิ๊กอสังหาฯในตลาดนอกจากต้องการขยายการเติบโตของธุรกิจแล้ว ยังกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้อีกด้วย สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เพิ่มพอร์ตการลงทุนในต่างจังหวัด อาทิ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นรายแรกๆที่ขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ โดยศุภาลัยได้ลงทุนผ่านบริษัทลูก เช่น บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด ลง ทุนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และบริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด พัฒนาที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่นเมื่อหลายปีที่ผ่านมา กระทั่งในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ ศุภาลัยได้ขยายการลงทุนออกไปยังหัวเมืองอื่นๆมากขึ้น อาทิ สระบุรี และเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต, เชียงใหม่, ชลบุรี ล่าสุดมีแผนขยายการลงทุนต่อไปที่อุดรธานี, ระยอง, สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา
ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดรายอื่นๆ เช่น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนในจังหวัดนครราชสีมา, ขอนแก่น เน้นบ้านเดี่ยวเป็นหลัง ส่วนจังหวัดเชียงใหม่มีทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม นอกจากนี้แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังมีแผนขยายการลงทุนไปยังจังหวัดใหม่ๆ โดยให้ความสนใจภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก ล่าสุดได้ซื้อที่ดินในจังหวัดอุดรธานีแล้ว 2 แปลง คาดว่าจะเปิดตัวได้ในปี 2556 และกำลังศึกษาตลาดในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย
ขณะที่บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงทุนในตลาดต่างจังหวัดมาก่อนหน้านี้แล้วหลายจังหวัด ทั้งระยอง, เพชรบุรี, ชลบุรี, เชียงใหม่ และยังมีอีกหลายจัง- หวัดที่มีศักยภาพที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายการลงทุนด้วย อาทิ สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, สงขลา, อุบลราชธานี, อุดรธานี เป็นต้น โดยให้เหตุผลว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าบริษัทกว้านซื้อที่ดินหลายแปลงในหัวหินและพื้นที่ใกล้เคียง
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีแผนลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลหัวเมืองต่างจังหวัด 15 โครงการ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาทในช่วงปลายปี 2555 หรือคิดเป็น 22% ของพอร์ต ประกอบคิดเป็น 22% ของพอร์ต ประกอบด้วยหัวหิน 6 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท, ภูเก็ต 5 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท, เขาใหญ่ 2 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท, ขอนแก่น 1 โครงการ มูลค่า 630 ล้านบาท และพัทยา 1 โครงการ มูลค่า 1,900 ล้านบาท มูลค่า 1,900 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีแผนลงทุนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดครบทุกประเภท ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ คอนโดมิเนียม และสำนักงานให้เช่า โดยเฉพาะแผนเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พื้นที่กว่า 3,300 ไร่ แผนการลงทุนในต่างจังหวัดของซี.พี.แลนด์แบ่งเป็น 5 โซนด้วยกัน ประกอบด้วย โซนภาคเหนือตอนบนคือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง โซนภาคเหนือตอนล่างคือ พิษณุโลก นครสวรรค์ โซนภาคอีสานคือ ขอนแก่น อุดรธานี มหา- สารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ หนองคาย นครพนม มุกดาหาร โซนภาคตะวันออกคือ ชลบุรี ระยอง และสุดท้ายโซนภาคใต้คือ นครศรีธรรมราช, สงขลา, สุราษฎร์ธานี และ ภูเก็ต
ด้านเจ้าตลาดอย่างบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหา ชน) นอกจากลงทุนในต่างประเทศแล้วยังให้ความสำคัญกับการลง ทุนในต่างจังหวัด อาทิ พระนคร ศรีอยุธยา, ชลบุรี, ขอนแก่น ภูเก็ต เป็นต้น
สำหรับบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) มีแผนจะซื้อที่ดิน 300 ไร่ บริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 10,000 ล้านบาท มีทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ซึ่งเริ่มพัฒนาในปลายปีนี้ โดยจะแบ่งเนื้อ ที่กว่า 100 ไร่ ทำโครงการสวนน้ำให้บริการนักท่องเที่ยว และพลาซ่าเพื่อปล่อยเช่าภายใต้ชื่อ "The Grand Kingdom" คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณไตรมาส 3 ปี 2558
ปี 2556 จึงเป็นปีที่ตลาดอสังหาฯในภูมิภาคจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงทั้งระหว่างรายใหญ่ ในตลาดด้วยกันและผู้ประกอบการอสังหาฯในพื้นที่เดิม ซึ่งมีหลายตัวแปรที่จะชี้วัดความสำเร็จในตลาดนี้ เช่น ต้นทุนการผลิตและการขนส่ง แบรนด์สินค้า รวมถึงสายป่านในการดำเนินธุรกิจ ฯลฯ
เป้าหมายของบิ๊กอสังหาฯในตลาดนอกจากต้องการขยายการเติบโตของธุรกิจแล้ว ยังกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้อีกด้วย สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เพิ่มพอร์ตการลงทุนในต่างจังหวัด อาทิ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นรายแรกๆที่ขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ โดยศุภาลัยได้ลงทุนผ่านบริษัทลูก เช่น บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด ลง ทุนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และบริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด พัฒนาที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่นเมื่อหลายปีที่ผ่านมา กระทั่งในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ ศุภาลัยได้ขยายการลงทุนออกไปยังหัวเมืองอื่นๆมากขึ้น อาทิ สระบุรี และเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต, เชียงใหม่, ชลบุรี ล่าสุดมีแผนขยายการลงทุนต่อไปที่อุดรธานี, ระยอง, สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา
ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดรายอื่นๆ เช่น บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนในจังหวัดนครราชสีมา, ขอนแก่น เน้นบ้านเดี่ยวเป็นหลัง ส่วนจังหวัดเชียงใหม่มีทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม นอกจากนี้แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังมีแผนขยายการลงทุนไปยังจังหวัดใหม่ๆ โดยให้ความสนใจภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก ล่าสุดได้ซื้อที่ดินในจังหวัดอุดรธานีแล้ว 2 แปลง คาดว่าจะเปิดตัวได้ในปี 2556 และกำลังศึกษาตลาดในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย
ขณะที่บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงทุนในตลาดต่างจังหวัดมาก่อนหน้านี้แล้วหลายจังหวัด ทั้งระยอง, เพชรบุรี, ชลบุรี, เชียงใหม่ และยังมีอีกหลายจัง- หวัดที่มีศักยภาพที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายการลงทุนด้วย อาทิ สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, สงขลา, อุบลราชธานี, อุดรธานี เป็นต้น โดยให้เหตุผลว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าบริษัทกว้านซื้อที่ดินหลายแปลงในหัวหินและพื้นที่ใกล้เคียง
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีแผนลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลหัวเมืองต่างจังหวัด 15 โครงการ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาทในช่วงปลายปี 2555 หรือคิดเป็น 22% ของพอร์ต ประกอบคิดเป็น 22% ของพอร์ต ประกอบด้วยหัวหิน 6 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท, ภูเก็ต 5 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท, เขาใหญ่ 2 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท, ขอนแก่น 1 โครงการ มูลค่า 630 ล้านบาท และพัทยา 1 โครงการ มูลค่า 1,900 ล้านบาท มูลค่า 1,900 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีแผนลงทุนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดครบทุกประเภท ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ คอนโดมิเนียม และสำนักงานให้เช่า โดยเฉพาะแผนเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พื้นที่กว่า 3,300 ไร่ แผนการลงทุนในต่างจังหวัดของซี.พี.แลนด์แบ่งเป็น 5 โซนด้วยกัน ประกอบด้วย โซนภาคเหนือตอนบนคือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง โซนภาคเหนือตอนล่างคือ พิษณุโลก นครสวรรค์ โซนภาคอีสานคือ ขอนแก่น อุดรธานี มหา- สารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ หนองคาย นครพนม มุกดาหาร โซนภาคตะวันออกคือ ชลบุรี ระยอง และสุดท้ายโซนภาคใต้คือ นครศรีธรรมราช, สงขลา, สุราษฎร์ธานี และ ภูเก็ต
ด้านเจ้าตลาดอย่างบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหา ชน) นอกจากลงทุนในต่างประเทศแล้วยังให้ความสำคัญกับการลง ทุนในต่างจังหวัด อาทิ พระนคร ศรีอยุธยา, ชลบุรี, ขอนแก่น ภูเก็ต เป็นต้น
สำหรับบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) มีแผนจะซื้อที่ดิน 300 ไร่ บริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 10,000 ล้านบาท มีทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ซึ่งเริ่มพัฒนาในปลายปีนี้ โดยจะแบ่งเนื้อ ที่กว่า 100 ไร่ ทำโครงการสวนน้ำให้บริการนักท่องเที่ยว และพลาซ่าเพื่อปล่อยเช่าภายใต้ชื่อ "The Grand Kingdom" คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณไตรมาส 3 ปี 2558
ปี 2556 จึงเป็นปีที่ตลาดอสังหาฯในภูมิภาคจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงทั้งระหว่างรายใหญ่ ในตลาดด้วยกันและผู้ประกอบการอสังหาฯในพื้นที่เดิม ซึ่งมีหลายตัวแปรที่จะชี้วัดความสำเร็จในตลาดนี้ เช่น ต้นทุนการผลิตและการขนส่ง แบรนด์สินค้า รวมถึงสายป่านในการดำเนินธุรกิจ ฯลฯ
ที่มา : โลกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น