วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ลอจิสติกส์ไทยส่งสัญญาณรุ่งยาวรายใหญ่แห่ออกโปรโมชั่นหนุนส่งออก


           แนวโน้มลอจิสติกส์ในไทยปีนี้ยังเติบโตจากปีที่ผ่านมา ด้วย 3 ปัจจัยใหญ่ คือ 1.โตตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี2556 จะโตไม่น้อยกว่า 5% ทั้งนี้ตลาดลอจิสติกส์ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท 2.ผลจากนโยบายรัฐบาลที่ทุ่มงบประมาณลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจอาทิ โครงการรับจำนำข้าว และ 3.ผลการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่จะมาถึงในอีก 2 ปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวทั้งในเรื่องการเพิ่มและการขยายกิจการ
          ด้านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท.) เร่งขยายพื้นที่สาขาเพื่อให้สามารถรองรับสินค้ามากขึ้น โดย "ปริษา ปานะนนท์"ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด ปณท.กล่าวว่า การเปิดเพิ่มพื้นที่ปลายทางให้บริการลอจิสโพสต์เวิลด์ส่งของใหญ่ระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการแก่ผู้ประกอบการธุรกิจที่ส่งออกสินค้าขนาดใหญ่ หรือส่งออกสินค้าคราวละมากๆ น้ำหนักตั้งแต่20 - 200 กก. อาทิ สินค้าโอท็อป เฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ ไปยังต่างประเทศได้อย่างครอบคลุมทั่วโลก ไปรษณีย์ไทยจึงได้กำหนดประเทศปลายทางเพิ่มเติมอีก 25 ประเทศ จากเดิมที่เปิดนำร่องให้บริการไปแล้วในระยะแรก 7 ประเทศ รวมเป็น 32 ประเทศ อาทิ เวียดนาม เกาหลีใต้ สิงคโปร์ฮ่องกง ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี อิตาลีแคนาดา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์เป็นต้น
          ทั้งนี้ จะใช้ระบบขนส่งทางอากาศที่ได้มาตรฐานสากลส่งถึงปลายทางภายใน 7-10 วันทำการ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะสิ่งของผ่านระบบ track&trace ได้ตลอด 24 ชม. ผ่านทางเว็บไซต์www.thailandpost.co.th อัตราค่าบริการคิดตามน้ำหนักและพื้นที่ปลายทางนอกจากนี้ ยังสามารถใช้บริการรับประกันเพิ่มเติมวงเงินได้ ติดต่อขอใช้บริการได้ ณที่ทำการไปรษณีย์ 82 แห่งทั่วประเทศ อาทิหลักสี่ ตลิ่งชัน สมุทรปราการ ราชดำเนินบางพลี บางบัวทอง ปทุมธานี สระบุรี ชลบุรีบางปะกง อุบลราชธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ลำพูน สมุทรสาคร ภูเก็ต สงขลา เป็นต้น
          นางปริษา กล่าวต่อว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ปณท.มุ่งมั่นพัฒนาบริการเพื่อสนองตอบทุกความต้องการในการส่งอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพและตรงความต้องการมากที่สุด ซึ่งในปีนี้ลอจิสโพสต์เวิลด์ส่งของใหญ่ระหว่างประเทศได้ขยายประเทศให้บริการปลายทางเป็น 32 ประเทศทั่วโลก รองรับความต้องการส่งของที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมไปถึงการส่งออกสินค้าระหว่างประเทศรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการลอจิสโพสต์เวิลด์ส่งของใหญ่ระหว่างประเทศตั้งแต่วันนี้ -15 มีนาคม 2556 จะได้รับส่วนลด 10%ต่อชิ้นทันทีที่ใช้บริการ
          ส่วนยักษ์ขนส่งด่วนต่างชาติอย่าง"ดีเอชแอล" ได้ผนึกกับธนาคารกสิกรไทยและวีซ่า ประเทศไทย มอบส่วนลดค่าบริการ30% เพื่อเอาใจธุรกิจเอสเอ็มอีไทย โดย"ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์" กรรมการผู้จัดการ ดีเอช แอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า ในปี 2556 นี้ ตลาด ลอจิสติกส์ในไทยมีการเติบโตสูงกว่าที่ผ่านๆ   มา ส่งผลให้มีความต้องการบริการที่มาก  กว่าการขนส่งและจัดเก็บสินค้าและพัสดุ สำหรับธุรกิจ SMEs ชั้นนำนั้น แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาวะการทำงานที่มีความท้าทาย แต่ก็สามารถปรับตัวได้ดี และเดินหน้าลงทุนสร้างกิจกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ดีเอชแอลจึงได้ผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจSMEs
          "ดีเอชแอล ได้ขยายการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจ SMEs ในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนธุรกิจ  SMEs ที่ต้องเผชิญกับสภาวะการติดต่อค้าขายที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวันปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs เกิดขึ้นใหม่มากกว่า 1.43 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 54 ของตลาด  SMEs ทั้งหมด การเข้าถึงเงินกู้ฉุกเฉินด้วยต้นทุนต่ำ และการมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานเป็นสิ่งที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจ SMEs หน้าใหม่ให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้น การผนึกกำลังร่วมกันระหว่างดีเอชแอล ธนาคารกสิกรไทย
          และวีซ่าในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมายต่อธุรกิจSMEs โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมและบริหารต้นทุนโดยจะช่วยผู้ประกอบการ SMEs ประหยัดต้นทุนในการขยายตลาดไปต่างประเทศได้มากขึ้น"
          สำหรับ  'ยูพีเอส' นั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เปิดตัวบริการ UPS Worldwide Express Freight SM บริการเฟรทด่วนทางอากาศใหม่ สำหรับการขนส่งพัสดุที่มีมูลค่าสูง น้ำหนักมาก ซึ่งต้องการความเร่งด่วนเป็นพิเศษ โดย"มร.เบรนแดนคานาแวน" ประธานยูพีเอส เอเชีย แปซิฟิกกล่าวว่า ลูกค้าสามารถส่งพัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่า 70 กิโลกรัม หรือ 150 ปอนด์ได้อย่างสะดวกสบายผ่านเครือข่ายทางอากาศของยูพีเอส จากต้นทาง 37 แห่งสู่จุดหมายปลายทางใน 41 ประเทศ และเขตการปกครอง ซึ่งบริการดังกล่าวนับเป็นบริการแบบ door-to-door ภายในวันกำหนดที่รวดเร็วที่สุดในปัจจุบัน สามารถส่งพัสดุภายในเอเชียได้ภายใน 1-3 วันทำการ ขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทาง
          ขณะที่ ค่าย "เฟดเอ็กซ์" ก็เพิ่งเปิดตัวเฟดเอ็กซ์ โมบายล์ แอพพลิเคชั่นเต็มรูปแบบบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทำให้การขนส่งสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาและง่ายขึ้นกว่าที่ผ่านมา โดยได้ขยับขยายครอบคลุมถึง 206 ประเทศ และ 25 ภาษา สามารถใช้งานได้ในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 30 ประเทศ นอกจากนั้น ผู้ใช้ไอแพด และแอนดรอยด์ TM ยังสามารถใช้งานแอพเฟดเอ็กซ์ โมโมบายล์ ผ่านอุปกรณ์ดังกล่าวด้วย  ซึ่งการปรับปรุงเพิ่มเติมครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับชุดโซลูชั่นบนโทรศัพท์มือถือครั้งสำคัญโดยลูกค้าสามารถตรวจสอบอัตราค่าบริการ การติดตามสถานะการขนส่ง กำหนดเวลารับพัสดุ ค้นหาสถานที่ตั้งโดยใช้ฟังก์ชั่น"ค้นหาใกล้บ้าน"เพื่อค้นหาเฟดเอ็กซ์ ดรอป บ็อกซ์ ศูนย์บริการเฟดเอกซ์ เวิลด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์หรือเฟดเอ็กซ์ ออฟฟิศ ใกล้บ้านคุณ โดยยึดจากตำแหน่งของคุณบนจีพีเอส
ที่มา : สยามธุรกิจ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น