นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะขยายโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ เพิ่มอีก 1 เส้นทาง คือ เส้นทางพิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร
ซึ่งจะเป็นลักษณะสามเหลี่ยมทางขวางของเส้นทางรถไฟสายปัจจุบัน
โดยจะเป็นเส้นทางใหม่ที่เชื่อมพื้นที่ระหว่างภาคอีสานตอนเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน เข้าด้วยกันแบบครบวงจร
เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างกิโลเมตรละ 300 ล้านบาท หรือใช้วงเงินรวม 90,000 ล้านบาท
"ประชาชนที่เข้ามาชมนิทรรศการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ได้เสนอแนะอยากให้รัฐบาลสร้างทางรถไฟเส้นดังกล่าวเพิ่มเติม ผมก็มองว่าน่าสนใจ เพราะเส้นทางดังกล่าวจะสามารถเชื่อมพื้นที่ 3 ภาคต่อกัน คือ ภาคเหนือ อีสาน และกลางเข้าด้วยกัน โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งมาอ้อมผ่านกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยทำให้การเดินทางประหยัดเวลา และประหยัดต้นทุนขนส่งให้ผู้ประกอบการที่ใช้บริการขนส่งสินค้า โดยได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กลับไปทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ หากเห็นว่าคุ้มค่าก็จะเดินหน้าก่อสร้าง แต่คงไม่ทันใช้งบประมาณในโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท"
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ได้ให้ ร.ฟ.ท.จัดจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาประมาณ 14 เดือน โดยรายละเอียดที่ต้องศึกษา เช่น จำนวนประชากรในพื้นที่ที่เส้นทางรถไฟผ่าน ลักษณะของพื้นที่เป็นพื้นที่ป่า หรือลุ่มน้ำ ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือไม่ โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขา ซึ่งมองว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่น่าสนใจ เพราะเป็นแนวเส้นทางขวาง ต่างจากเส้นทางรถไฟสายปัจจุบัน 5 เส้นทางที่ส่วนใหญ่จะเชื่อมจากเหนือ ลงมาใต้ คือ เส้นทางสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออก สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายแม่กลอง
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการป้องกันการแอบสร้างทางลักผ่านตัดแนวเส้นทางรถไฟ เพื่อใช้สัญจร โดยไม่แจ้ง ร.ฟ.ท. ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัย และเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถไฟและรถยนต์หลายครั้ง ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความร่วมมือโดยส่งหนังสือไปยังผู้บริหารท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า หากจะสร้างทางตัดกับเส้นทางรถไฟ จะต้องแจ้งให้ร.ฟ.ท.ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ทางและขณะนี้ ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างเร่งสร้างเครื่องกั้นจุดตัดทางรถไฟ
"ส่วนใหญ่ผู้ที่สร้างทางลักผ่าน จะเป็นผู้มีอำนาจในท้องถิ่น เช่น อบจ. อบต. ทางร.ฟ.ท. จึงได้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งไปยังผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ที่ผ่านมาทาง ร.ฟ.ท. เคยรื้อทางลักผ่านที่ไม่ได้แจ้งร.ฟ.ท.ออก แต่บางพื้นที่เจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท. เคยถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ไล่ยิงด้วย ซึ่งอยากให้แต่ละพื้นที่เข้าใจด้วย เพราะการสร้างทางลักผ่านโดยไม่แจ้ง ร.ฟ.ท.ก่อน ส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัย เพราะคนขับรถไฟจะไม่รู้ว่า ตรงจุดนั้นมีรถหรือคนตัดผ่านรถไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย"
"ประชาชนที่เข้ามาชมนิทรรศการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ได้เสนอแนะอยากให้รัฐบาลสร้างทางรถไฟเส้นดังกล่าวเพิ่มเติม ผมก็มองว่าน่าสนใจ เพราะเส้นทางดังกล่าวจะสามารถเชื่อมพื้นที่ 3 ภาคต่อกัน คือ ภาคเหนือ อีสาน และกลางเข้าด้วยกัน โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งมาอ้อมผ่านกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยทำให้การเดินทางประหยัดเวลา และประหยัดต้นทุนขนส่งให้ผู้ประกอบการที่ใช้บริการขนส่งสินค้า โดยได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กลับไปทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ หากเห็นว่าคุ้มค่าก็จะเดินหน้าก่อสร้าง แต่คงไม่ทันใช้งบประมาณในโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท"
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ได้ให้ ร.ฟ.ท.จัดจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาประมาณ 14 เดือน โดยรายละเอียดที่ต้องศึกษา เช่น จำนวนประชากรในพื้นที่ที่เส้นทางรถไฟผ่าน ลักษณะของพื้นที่เป็นพื้นที่ป่า หรือลุ่มน้ำ ที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือไม่ โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขา ซึ่งมองว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่น่าสนใจ เพราะเป็นแนวเส้นทางขวาง ต่างจากเส้นทางรถไฟสายปัจจุบัน 5 เส้นทางที่ส่วนใหญ่จะเชื่อมจากเหนือ ลงมาใต้ คือ เส้นทางสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออก สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายแม่กลอง
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการป้องกันการแอบสร้างทางลักผ่านตัดแนวเส้นทางรถไฟ เพื่อใช้สัญจร โดยไม่แจ้ง ร.ฟ.ท. ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัย และเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถไฟและรถยนต์หลายครั้ง ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความร่วมมือโดยส่งหนังสือไปยังผู้บริหารท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า หากจะสร้างทางตัดกับเส้นทางรถไฟ จะต้องแจ้งให้ร.ฟ.ท.ทราบก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้ทางและขณะนี้ ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างเร่งสร้างเครื่องกั้นจุดตัดทางรถไฟ
"ส่วนใหญ่ผู้ที่สร้างทางลักผ่าน จะเป็นผู้มีอำนาจในท้องถิ่น เช่น อบจ. อบต. ทางร.ฟ.ท. จึงได้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งไปยังผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ที่ผ่านมาทาง ร.ฟ.ท. เคยรื้อทางลักผ่านที่ไม่ได้แจ้งร.ฟ.ท.ออก แต่บางพื้นที่เจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท. เคยถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ไล่ยิงด้วย ซึ่งอยากให้แต่ละพื้นที่เข้าใจด้วย เพราะการสร้างทางลักผ่านโดยไม่แจ้ง ร.ฟ.ท.ก่อน ส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัย เพราะคนขับรถไฟจะไม่รู้ว่า ตรงจุดนั้นมีรถหรือคนตัดผ่านรถไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย"
ที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น