.jpg)
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า
ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล
โกรท(TLGF) มีมติในการประชุมวิสามัญเมื่อวันที่5 ต.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มจำนวนไม่เกิน650
ล้านหน่วยและระดมทุนเพิ่มไม่เกิน 7,545 ล้านบาทเสนอขายผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อในสมุดจดทะเบียนในวันที่
5 พ.ย. 2555 โดยจะกำหนดราคาจากการสำรวจความต้องการนักลงทุนสถาบัน
กองทุนจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส เพิ่มอีก 5 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต ศาลายา นครศรีธรรมราช รังสิต-นครนายก และบางปูซึ่งทุกแห่งมีผลประกอบการที่ดี อัตราเช่า 100% สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่กองทุนในทันที โดยการลงทุนในครั้งนี้ทำให้กองทุนมีศูนย์การค้ารวม22 แห่ง โดยมีสัดส่วนที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (ฟรีโฮลด์) 75% และสิทธิการเช่า (ลีสต์โฮลด์) 25% จากเดิมอยู่ที่ 73% และ 27% ตามลำดับ
"การลงทุนในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น"นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จะใช้สิทธิเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหน่วย25%ส่วนสถาบันในต่างประเทศถือ 28%สถาบันในประเทศถือ 22% และรายย่อยถือ 25%
ปัจจุบันกองทุนมีขนาดสินทรัพย์1.84 หมื่นล้านบาทหลังเพิ่มทุนจะเพิ่มเป็น 2.59 หมื่นล้านบาทใหญ่สุดในประเทศไทย และหากรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กอง 2 และ 4 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร1.2 แสนล้านบาท
ด้านนายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทมกล่าวว่า เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปขยายศูนย์กระจายสินค้าอีก 3 แห่งที่ ลำปาง ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานีซึ่งแต่ละแห่งใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท รวมทั้งเปิดสาขาใหม่ตามแผนอีก 150 แห่งในครึ่งปีหลัง ใช้เงินลงทุนต่อปี 7,000 ล้านบาท
"เทสโก้ โลตัส บริษัทแม่ยังมองไทยมีศักยภาพและเติบโตได้ดีในเอเชียจึงมีเป้าหมายใช้ไทยเป็นฐาน และไม่กังวลสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลเตรียมรับมืออย่างดีขณะที่ยอดขายครึ่งปีแรกเติบโต 14%และทั้งปีก็คาดว่าจะโตประมาณนี้"นายสมพงษ์ กล่าว
นางชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ปีนี้มีแผนเพิ่มทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส เพิ่มอีก 5 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต ศาลายา นครศรีธรรมราช รังสิต-นครนายก และบางปูซึ่งทุกแห่งมีผลประกอบการที่ดี อัตราเช่า 100% สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่กองทุนในทันที โดยการลงทุนในครั้งนี้ทำให้กองทุนมีศูนย์การค้ารวม22 แห่ง โดยมีสัดส่วนที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (ฟรีโฮลด์) 75% และสิทธิการเช่า (ลีสต์โฮลด์) 25% จากเดิมอยู่ที่ 73% และ 27% ตามลำดับ
"การลงทุนในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น"นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จะใช้สิทธิเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหน่วย25%ส่วนสถาบันในต่างประเทศถือ 28%สถาบันในประเทศถือ 22% และรายย่อยถือ 25%
ปัจจุบันกองทุนมีขนาดสินทรัพย์1.84 หมื่นล้านบาทหลังเพิ่มทุนจะเพิ่มเป็น 2.59 หมื่นล้านบาทใหญ่สุดในประเทศไทย และหากรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กอง 2 และ 4 บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร1.2 แสนล้านบาท
ด้านนายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทมกล่าวว่า เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปขยายศูนย์กระจายสินค้าอีก 3 แห่งที่ ลำปาง ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานีซึ่งแต่ละแห่งใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท รวมทั้งเปิดสาขาใหม่ตามแผนอีก 150 แห่งในครึ่งปีหลัง ใช้เงินลงทุนต่อปี 7,000 ล้านบาท
"เทสโก้ โลตัส บริษัทแม่ยังมองไทยมีศักยภาพและเติบโตได้ดีในเอเชียจึงมีเป้าหมายใช้ไทยเป็นฐาน และไม่กังวลสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลเตรียมรับมืออย่างดีขณะที่ยอดขายครึ่งปีแรกเติบโต 14%และทั้งปีก็คาดว่าจะโตประมาณนี้"นายสมพงษ์ กล่าว
นางชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ปีนี้มีแผนเพิ่มทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์
ที่มา :
โพสต์ทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น