วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

ชี้ไทยติดอันดับ 4 อาเซียน ต่างชาติเข้าลงทุนโดยตรง


             กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ชาติ เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า กำลังเป็นที่สนใจของบรรดา นักลงทุนจากภูมิภาคอื่น เช่น จีน หรือ ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้ชาติสมาชิกอาเซียนมีความน่าสนใจและกลายเป็นแหล่งลงทุนของประเทศต่างๆ ที่จะขนเงินเข้าไปลงทุนในภูมิภาคนี้
          น.ส.กีรติ ทวีทรัพย์ นักวิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
 (ECBER) ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้มอบให้ศูนย์ฯวิจัยศักยภาพและทำบทวิเคราะห์เศรษฐกิจอาเซียนกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะไทย ลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ และกัมพูชา เพื่อเสนอโอกาสสำหรับนักธุรกิจไทยด้านการค้าและการลงทุน   รวมทั้งเป็นข้อมูลการค้าและการลงทุนในเออีซี ซึ่งจากการวิจัยพบว่า  การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน นั้น ประเทศที่มีมูลค่าลงทุนจากต่างประเทศสูงสุด 5 อันดับในปี 2553 ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซียและไทย ตามลำดับ ซึ่งแต่ละประเทศมีแหล่งที่มาของเงินลงทุน FDI (Foreign Direct Investment by Region/Country)
          อันดับ 1 คือ สิงคโปร์ มูลค่ากว่า 497,830.21 ล้านดอลลาร์ โดยประเทศที่ลงทุนในสิงคโปร์สูงสุด คือ เนเธอร์แลนด์ มูลค่า 49,017.5 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือ ญี่ปุ่น มูลค่า 43,273.8 ล้านดอลลาร์ และสหราชอาณาจักร มูลค่า 40,273.8 ล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจที่ต่างชาติลงทุน มากสุดคือ การเงินและประกันภัย มีมูลค่า 212,373 ล้านดอลลาร์ สาขาการผลิต มูลค่า 105,301 ล้านดอลลาร์ และ ธุรกิจก่อสร้าง มูลค่า 88,408 ล้านดอลลาร์
          อันดับที่ 2 ประเทศ มาเลเซีย มูลค่าลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศกว่า 28,092.06 ล้านดอลลาร์ ซึ่งประเทศที่เข้าไปลงทุนในมาเลเซียสูงสุด คือ เดนมาร์ก มูลค่า 14,046 ล้านดอลลาร์ ฝรั่งเศส มูลค่า 2,370 ล้านดอลลาร์ฯ และ ลักเซมเบิร์ก มูลค่า 2,314 ล้านดอลลาร์  โดยธุรกิจที่ต่างชาติสนใจลงทุนในมาเลเซียอันดับ 1 คือ ธุรกิจการผลิต มูลค่า 17,990 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจการเงินและประกันภัย มูลค่า 3,090 ล้านดอลลาร์ และ ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง มูลค่า 2,918 ล้านดอลลาร์ อันดับที่ 2 คือประเทศอินโดนีเซีย มูลค่าลงทุนโดยตรงจากต่างชาติสูงสุด 10,446.96 ล้านดอลลาร์

          และประเทศที่เข้าไปลงทุนมากสุดอันดับ 1 คือ สิงคโปร์ มูลค่า 3,830 ล้านดอลลาร์ อันดับ 2 ญี่ปุ่น มูลค่า 1,099 ล้านดอลลาร์และอันดับ 3 หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น มูลค่า 930 ล้านดอลลาร์ ที่เหลือเป็น ประเทศอื่นๆ กว่า 80 ประเทศ
          สำหรับธุรกิจที่ต่างชาติลงทุนในอินโดนีเซีย มากสุด 3 อันดับแรกคือ อันดับ 1 ธุรกิจคมนาคมและขนส่ง มีมูลค่าลงทุนโดยตรง 5,072.12 ล้านดอลลาร์ อันดับ 2 คือ ธุรกิจเหมืองแร่ มูลค่า 2,200.54 ล้านดอลลาร์ และอันดับ 3 ธุรกิจผลิตไฟฟ้าก๊าซและน้ำประปา มูลค่า 1,428.61 ล้านดอลลาร์
          "อันดับที่ 4 คือ ประเทศไทย ปี 2553 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ มูลค่ากว่า 9,689 ล้านดอลลาร์ โดยประเทศที่ลงทุนในไทยสูงสุด คือ ญี่ปุ่น มูลค่าลงทุน 3,572 ล้านดอลลาร์ สิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าลงทุนกว่า 928.2 ล้านดอลลาร์ และ 748 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ที่เหลือเป็นประเทศ อื่นๆ อีกกว่า 50 ประเทศ  โดยสาขาธุรกิจที่ต่างชาติ นิยมเข้ามาลงทุนในประเทศไทย มากที่สุด ในประเทศไทย 3 อันดับแรก อันดับ 1 คือ อุตสาหกรรมการผลิต มีมูลค่าการลงทุน 5,075 ล้านดอลลาร์ อันดับ 2 ธุรกิจการเงินและการประกันภัย มูลค่าการลงทุน 2,332 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจรถยนต์ รถพ่วงและอุปกรณ์ มีมูลค่า 1,356 ล้านดอลลาร์"
          อันดับสุดท้ายคืออันดับที่ 5 คือประเทศเวียดนามในปี 2553 ประเทศเวียดนาม มีมูลค่าการลงทุนโดยตรงจาก ต่างประเทศรวม 2,409 ล้านดอลลาร์  สูงสุดเป็นอันดับ 3 โดยในปี 2553 ประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามสูงที่สุด อันดับ 1 คือ บริติชเวสท์อินดิส์ มีมูลค่าการลงทุน 2,379.34 ล้านดอลลาร์ อันดับ 2 เดนมาร์ก มูลค่าการลงทุน 13 ล้านดอลลาร์ และอันดับ 3 อิตาลี มีมูลค่าการลงทุน 6.41  ล้านดอลลาร์   ส่วนธุรกิจที่ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศเวียดนามมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมการผลิต มูลค่าเงินทุนปี  2554 กว่า 2,939.2 ล้านดอลลาร์ รองลง มาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าเงินลงทุน 1,201 ล้านดอลลาร์ และ ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง มูลค่าเงินลงทุน 202 ล้านดอลลาร์
          " อันดับที่ 4 คือ ไทยมีการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 9,689 ล้านดอลลาร์ โดยญี่ปุ่น ลงทุนมากสุด 3,572 ล้านดอลลาร์ "
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น