เมื่อวันที่ 2 ก.ย.
นายวิทยา หงษ์เวียงจันทร์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน ต.ค. 54-ส.ค. 55 กรมอุทยานแห่งชาติฯ
สามารถจัดเก็บรายได้จากการเข้าชมอุทยานแห่งชาติ โดย 10 อันดับแรกที่เก็บรายได้มากที่สุดคือ
1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 54.2 ล้านบาท 2.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี 43.8
ล้านบาท 3.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
จ.เชียงใหม่ 30.4 ล้านบาท 4.อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
24.4 ล้านบาท 5.อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
จ.จันทบุรี 23.9 ล้านบาท 6.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
จ.กระบี่ 20.7 ล้านบาท 7.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด
จ.ระยอง 16.6 ล้านบาท 8.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
จ.กระบี่ 15.1 ล้านบาท 9.อุทยานแห่งชาติไทรโยค
จ.กาญจนบุรี 14 ล้านบาท และ 10.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด 13.9 ล้านบาท
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือ ไฮซีซั่น ที่จะถึงในเดือน ต.ค. สำหรับอุทยานแห่งชาติทางบก และเดือน พ.ย. สำหรับอุทยานแห่งชาติทางทะเลนั้น กรมอุทยานฯ ได้เตรียมแผนรองรับนักท่องเที่ยว โดยการรื้อบ้านพักที่ทรุดโทรมทิ้ง โดยสิ่งที่กรมอุทยานฯ พยายามทำมาหลายปี คือ การใช้มาตรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถคุมได้ 100% โดยเฉพาะอุทยานทางบก อย่างไรก็ตามการขึ้นราคาค่าตั๋วของอุทยานแห่งชาติ ไม่ได้ขึ้นมา 5-6 ปีแล้ว และที่ขึ้นก็ไม่ได้ขึ้นทั้งหมด ขึ้นเพียง 29 แห่ง และราคาก็ถูกกว่าประเทศอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้เตรียมขายตั๋วเข้าอุทยานฯผ่านร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อป้องกันการทุจริต ที่เกิดปัญหามาตลอด คือฉีกตั๋วไม่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่ส่งมายังส่วนกลาง โดยรูปแบบตั๋วนั้นจะทำในลักษณะเป็นการ์ดรูปภาพสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละอุทยานฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บสะสมได้.
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือ ไฮซีซั่น ที่จะถึงในเดือน ต.ค. สำหรับอุทยานแห่งชาติทางบก และเดือน พ.ย. สำหรับอุทยานแห่งชาติทางทะเลนั้น กรมอุทยานฯ ได้เตรียมแผนรองรับนักท่องเที่ยว โดยการรื้อบ้านพักที่ทรุดโทรมทิ้ง โดยสิ่งที่กรมอุทยานฯ พยายามทำมาหลายปี คือ การใช้มาตรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถคุมได้ 100% โดยเฉพาะอุทยานทางบก อย่างไรก็ตามการขึ้นราคาค่าตั๋วของอุทยานแห่งชาติ ไม่ได้ขึ้นมา 5-6 ปีแล้ว และที่ขึ้นก็ไม่ได้ขึ้นทั้งหมด ขึ้นเพียง 29 แห่ง และราคาก็ถูกกว่าประเทศอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้เตรียมขายตั๋วเข้าอุทยานฯผ่านร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อป้องกันการทุจริต ที่เกิดปัญหามาตลอด คือฉีกตั๋วไม่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่ส่งมายังส่วนกลาง โดยรูปแบบตั๋วนั้นจะทำในลักษณะเป็นการ์ดรูปภาพสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละอุทยานฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บสะสมได้.
ที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น