นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที
เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือทีมิลล์ (TMILL) ผู้ผลิตแป้งสาลีคุณภาพของไทยในเครือบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตแป้งสาลี จากปัจจุบันที่ผลิตได้ 250 ตัน ข่าวสาลีต่อวัน เป็น 500 ตัน ข่าวสาลีต่อวัน
ซึ่งจะทำให้ทีมิลล์เป็นผุ้ผลิตแป้งสาลีรายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน
3 ของไทย โดยการลงทุนดังกล่าวจะมีการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับผลิตแป้งสาลี
รวมถึงถึงไซโลสำหรับเก็บวัตถุดิบข้าวสาลีและแป้งสาลีอีก1 ชุด
ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2556 ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ
600 ล้านบาท โดยเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากการเสนอขายหุ้นสามัญ
เพิ่มทุนจำนวน 85 ล้านหุ้นในเดือน ต.ค.นี้
"บริษัทมุ่งให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้าเป็นอย่างมากเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ข่าวสาลีที่มีมาตรฐานสูง นำมาผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ติดตามการทำงานทุกขั้นตอนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของแป้งสาลีสูตรต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ จนได้แป้งสาลีที่มีคุณภาพ สะอาด ได้มาตรฐานและเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตสินค้าจำนวนมากให้ความไว้วางใจสั่งซื้อแป้งสาลีจากบริษัทจนไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการจึงมั่นใจว่าการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500 ตัน ข้าวสาลีต่อวัน จะมีตลาดรองรับแน่นอน"
นายชาญกฤชกล่าวว่า ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้วางแผนจะขบายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยครอบคลุมผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กให้มากขึ้นรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคจากเดิมที่เน้นเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และบริษัทยังเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มุ่งเน้นจำหน่ายให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังมีแผนจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาจำหน่ายรวมทั้งพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น สำหรับผลประกอบการของในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปีนี้ บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 525.1 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 53.81 ล้านบาท.
"บริษัทมุ่งให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้าเป็นอย่างมากเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ข่าวสาลีที่มีมาตรฐานสูง นำมาผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ติดตามการทำงานทุกขั้นตอนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของแป้งสาลีสูตรต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ จนได้แป้งสาลีที่มีคุณภาพ สะอาด ได้มาตรฐานและเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตสินค้าจำนวนมากให้ความไว้วางใจสั่งซื้อแป้งสาลีจากบริษัทจนไม่สามารถผลิตได้เพียงพอกับความต้องการจึงมั่นใจว่าการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500 ตัน ข้าวสาลีต่อวัน จะมีตลาดรองรับแน่นอน"
นายชาญกฤชกล่าวว่า ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้วางแผนจะขบายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยครอบคลุมผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กให้มากขึ้นรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคจากเดิมที่เน้นเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และบริษัทยังเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มุ่งเน้นจำหน่ายให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้ ยังมีแผนจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาจำหน่ายรวมทั้งพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น สำหรับผลประกอบการของในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปีนี้ บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 525.1 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 53.81 ล้านบาท.
ที่มา : ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น