รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี ม.ขอนแก่น (มข.) กล่าวในการเสวนา
"AEC : บทบาทและการเตรียมความพร้อมเพื่อความเป็นหุ้นส่วนทางการพัฒนาระหว่างจังหวัดขอนแก่นกับจีน"
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า
ภาคประชาคมขอนแก่นแข็งแกร่งมากในความร่วมมือขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่นให้เติบโตและกำลังสร้างให้เมืองขอนแก่นเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการขนส่งและกระจายสินค้า
ศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรม ศูนย์กลางของการประชุมสัมมนา ศูนย์กลางทางการศึกษา
ศูนย์กลางของการรักษาพยาบาล ศูนย์กลางในการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่และ เอสเอ็มอี
ซึ่งจากปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เชื่อมั่นว่าขอนแก่นพร้อมแล้วที่จะเป็นศูนย์กลางอาเซียน
และมข.ก็พร้อมเป็นแม่งานความร่วมมือระหว่าง มข. ประเทศจีน และหอการค้าจังหวัด
ในการทำวิจัยเพื่อพัฒนาธุรกิจในการก้าวเข้าสู่ เออีซี ต่อไป
นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า การจัดตั้งกงสุลใหญ่ของจีนที่จังหวัดขอนแก่น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นกับการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคอีสานที่มีศักยภาพในการพัฒนาหลายด้านรวมถึงความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีกับรัฐบาลไทย โดยผู้นำของทั้งสองประเทศมีการเดินทางไปเยือนกันอย่างเป็นทางการ มีการออกแถลงการณ์สร้างความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน มีการลงนามความร่วมมือทวิภาคี ซึ่งเป็นการตอกย้ำ ยืนยันความร่วมมือในทุกด้าน
"นโยบายของรัฐบาลไทยวางแผนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง 4 สาย ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-หนองคาย กรุงเทพฯปาดังเบซาร์ และกรุงเทพฯ-ระยอง โดยเฉพาะสายกรุงเทพฯหนองคาย เป็นเส้นทางที่สำคัญมากเพราะจะเชื่อมไปที่ประเทศจีนด้วย และรัฐบาลจีนก็สนใจเรื่องนี้มาก และเห็นว่าควรยกระดับความเร็วของรถไฟเป็น 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งจะได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยจีนวางเป้าหมายที่จะให้รถไฟวิ่งผ่านหนองคาย และให้บริการทั้งขนส่งผู้โดยสารและสินค้า "
นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า การจัดตั้งกงสุลใหญ่ของจีนที่จังหวัดขอนแก่น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นกับการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคอีสานที่มีศักยภาพในการพัฒนาหลายด้านรวมถึงความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีกับรัฐบาลไทย โดยผู้นำของทั้งสองประเทศมีการเดินทางไปเยือนกันอย่างเป็นทางการ มีการออกแถลงการณ์สร้างความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน มีการลงนามความร่วมมือทวิภาคี ซึ่งเป็นการตอกย้ำ ยืนยันความร่วมมือในทุกด้าน
"นโยบายของรัฐบาลไทยวางแผนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง 4 สาย ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-หนองคาย กรุงเทพฯปาดังเบซาร์ และกรุงเทพฯ-ระยอง โดยเฉพาะสายกรุงเทพฯหนองคาย เป็นเส้นทางที่สำคัญมากเพราะจะเชื่อมไปที่ประเทศจีนด้วย และรัฐบาลจีนก็สนใจเรื่องนี้มาก และเห็นว่าควรยกระดับความเร็วของรถไฟเป็น 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งจะได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยจีนวางเป้าหมายที่จะให้รถไฟวิ่งผ่านหนองคาย และให้บริการทั้งขนส่งผู้โดยสารและสินค้า "
ที่มา
: เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น