วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หวั่นธุรกิจชอร์ตเจอวิกฤตไฟฟ้าขาดเอกชนจี้รัฐโชว์ข้อมูล-เร่งผลิตสินค้าเก็บสต๊อก


 นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงพลังงานระบุว่าช่วงเดือนเม.ย. ก๊าซธรรมชาติอาจขาดแคลน เนื่องจากพม่าปิดซ่อมบำรุงแหล่งขุดเจาะก๊าซในวันที่ 4-12 เม.ย.นี้ ขณะที่มาเลเซียจะหยุดส่งก๊าซ จากกรณีท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซีย เสียหายจากอุบัติเหตุการทิ้งสมอเรือ ว่า ต้องการให้กระทรวงพลังงานประสานข้อมูลให้ภาคเอกชนรับทราบโดยเร็วว่าสามารถรับมือวิกฤตได้หรือไม่ และมีความจำเป็นต้องใช้ไฟ รวมถึงสามารถผลิตได้เป็นจำนวนเท่าใด เพื่อให้เอกชนวางแผนการผลิต ล่วงหน้า เพราะหากได้ข้อมูลล่าช้า กระบวนการผลิตอาจต้องหยุดชะงัก ทำให้เกิดผลเสียหายเป็นอย่างมาก
          ทั้งนี้ ภาคเอกชนยินดีช่วยเหลือรัฐบาล เช่น ลดกำลังการผลิต หรือเว้นการผลิตชั่วคราวในช่วงที่มีปัญหา หรือเร่งการผลิต เพื่อสำรองสินค้าก่อนที่พม่าจะไม่สามารถส่งก๊าซมาให้ได้ โดยภาคอุตสาหกรรมที่อาจได้รับผล กระทบจากวิกฤตครั้งนี้ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมาก เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น
          นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ผู้ประกอบการไม่ต้องการให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ในกรณีที่มีการนำน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาซึ่งมีต้นทุนสูงมาผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากไม่ใช่ความผิดของประชาชนและโรงงานอุตสาหกรรม แต่ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับภาระแทน ขณะเดียวกันต้องการให้กระทรวงพลังงานเจรจากับพม่าเพื่อให้ผู้ผลิตก๊าซเลื่อนการซ่อมแท่นไปเป็นวันที่ 13-21 เม.ย. เนื่องจากช่วงต้นเดือนเม.ย. ผู้ประกอบการต้องเร่งเดินเครื่องการผลิตสินค้าก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์
          ด้านนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า หากเกิดปัญหาก๊าซขาดแคลน คาดว่าขสมก. จะได้รับผลกระทบไม่มาก เนื่องจากรถขนส่งสาธารณะที่ให้บริการประชาชนส่วนใหญ่หรือประมาณ 3 พันคัน ใช้น้ำมันดีเซล มีเพียง 120 คันเท่านั้นที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ
          นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการขนส่งจะต้องช่วยตัวเอง ด้วยการวางแผนการเติมก๊าซให้เหมาะสม เช่น ผู้ประกอบการแถบภาคเหนือควรเลือกเติมก๊าซจากแหล่งลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ส่วนภาคอีสาน ควรเติมแถบน้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งในประเทศ ไม่ควรมาแย่งเติมก๊าซในพื้นที่ภาคกลางซึ่งส่วนใหญ่ต้องรับก๊าซมาจากแหล่งพม่า และมาเลเซีย
ที่มา : ข่าวสด
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น