วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อีสานตื่นตัวเร่งหาข้อมูล


    น.ส.รัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 (ขอนแก่น) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยหลังการสัมมนารับฟังความคิดเห็นเรื่อง "ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่: เพื่ออุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างยั่งยืน" ว่า ขณะนี้นักลงทุนพื้นที่ภาคอีสานได้ติดต่อกับศูนย์การลงทุนภาคที่ 3 ถึงการไปลงทุนเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว เพื่อรองรับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เพราะเป็นตลาดที่จะเริ่มมีกำลังซื้อสูงจึงทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมต้องเร่งเปิดตลาด
          "ตัวอย่าง เช่น บริษัท เค.ซี. เมทัลชีท ผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งหลังคาเหล็ก สนใจที่จะไปลงทุนที่พม่า และบางรายก็มองการลงทุนในเรื่องของพลังงานน้ำในลาวซึ่งถือว่ามีการตื่นตัวพอสมควรซึ่งก็สอดรับกับยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่บีโอไอ ที่จะส่งเสริมให้นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก เพราะหากสามารถไปปักธงในเพื่อนบ้านได้ก่อนก็จะได้เปรียบคู่แข่ง"
          นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า นโยบายการปรับยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ของบีโอไอยังไม่มีผลต่อการชะลอการลงทุนตามที่ภาคเอกชนกังวล เนื่องจากเดือน ม.ค. 56 มียอดขอยื่นรับการส่งเสริมฯ ทั้งสิ้น 185 โครงการเงินลงทุน 74,800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียื่นขอทั้งสิ้น 102 โครงการ มูลค่า 73,400 ล้านบาท ดังนั้นมั่นใจว่าการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนปี 56 จะมีมูลค่า 600,000-700,000 ล้านบาท
          "ภาพรวมการลงทุนปี 55 ที่สูงเป็นประวัติการณ์โดยมีมูลค่าลงทุน 1.4 ล้านล้านบาทเนื่องจากเป็นปีที่มีการเติบโตผิดปกติจากที่อั้นมาจากน้ำท่วมปี 54"
          สำหรับการรับฟังความเห็นจากเอกชนครั้งสุดท้ายจะจัดขึ้นวันที่ 18 ก.พ.ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นจะเปิดเวทีย่อยรับฟังความเห็นจากภาคเอกชนเช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น เพื่อที่จะนำมาปรับให้เหมาะสมซึ่งหากการดำเนินงานทั้งหมดเสร็จสิ้น มี.ค. ก็จะประกาศได้ภายใน มิ.ย. 56
          อย่างไรก็ตามจากการรับฟังความเห็นครั้งที่ผ่านมาจะพบว่ามีประเด็นที่ภาคเอกชนแนะนำ เช่น เขตส่งเสริมฯที่แบ่งเป็นเขต 1-2-3 ที่เอกชนติงว่าเมื่อค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศพื้นที่ต่างจังหวัดที่ไม่พร้อมในเรื่องระบบสาธารณูปโภคอาจจะไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ซึ่งเรื่องนี้บีโอไอได้เน้นการส่งเสริมฯแบบใหม่โดยการรวมกลุ่ม (คลัสเตอร์) ที่จะมองในเรื่องของมูลค่าสินค้ามากกว่ารายกิจการ.
ที่มา : เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น