วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เปิดสัมปทานปิโตรเลียม 13 จังหวัดภาคอีสาน


          กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เตรียมเปิดพื้นที่สัมปทานรอบใหม่ 22 แปลงทั่วประเทศเน้น 13 จังหวัดภาคอีสาน รุกเดินสายจัดสัมมนาสร้างเครือข่ายปิโตรเลียมต่างจังหวัด เน้นสร้างความมั่นใจด้านพลังงานให้กับประเทศ แจงตัวเลขเก็บรายได้จากสัมปทานเข้ารัฐ ปีที่ผ่านมา 150,000 ล้านบาท ก่อนกระจายเม็ดเงินกลับมาพัฒนาท้องถิ่นกว่า 14,000 ล้านบาท
          น.ส.วรรณาภรณ์ สวัสดิมงคล รอง อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ส่งเสริมสนับสนุนการสำรวจและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศมายาวนาน กว่า 40 ปี มีการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม มาแล้ว 20 รอบ ปัจจุบันมีแหล่งปิโตรเลียมทั้งสิ้น 69 แหล่ง คือ แหล่งน้ำมัน 36 แหล่ง แบ่งเป็นแหล่งบนบก 17 แหล่ง และใน ทะเลอีก 19 แหล่ง ส่วนแหล่งก๊าซธรรมชาติ มีทั้งสิ้น 33 แหล่ง แบ่งเป็นบนบก 3 แหล่ง ส่วนในทะเลมีมากถึง 30 แหล่ง ซึ่งถือว่าแหล่งผลิตปิโตรเลียมส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 94 เป็นแหล่งในทะเล
          ทั้งนี้ ในปี 2555 จะมีการเปิดแปลง สัมปทานปิโตรเลียมในรอบที่ 21 รวมทั้งหมด 22 แปลง ประกอบด้วยพื้นที่บนบก 17 แปลง แบ่งเป็นภาคเหนือและภาค กลาง 6 แปลง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แปลง อ่าวไทยจำนวน 5 แปลง รวมพื้นที่ 45,955 ตารางกิโลเมตรในส่วนของ ภาคอีสานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และมีศักยภาพ เพียงพอในการที่จะดำเนินการสำรวจและ ผลิตปิโตรเลียมนั้น จะมีการเปิดสัมปทานรอบใหม่ทั้งหมด 13 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดอุดรธานี, หนองคาย, สกลนคร, กาฬสินธุ์, หนองบัวลำภู, 
ขอนแก่น, มหาสารคาม, บุรีรัมย์, ยโสธร, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, นครราชสีมา และจังหวัดอุบลราชธานี
          สำหรับสถานการณ์ การใช้พลังงาน ของประเทศในปี 2554 ผ่านมานั้น ประเทศไทยมีการใช้พลังงานเชิงพาณิชย์เฉลี่ยวันละ 1.86 ล้านบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ ต่อวัน มีสัดส่วนชนิดเชื้อเพลิงเป็นก๊าซธรรม ชาติ 44% น้ำมันดิบ 37% ถ่านหิน ลิกไนต์ 17% พลังน้ำ และอื่นๆ 2% ขณะที่การจัดหาพลังงานภายในประเทศสามารถพึ่งพาตัวเองได้ประมาณ 43% โดยจัดหาก๊าซธรรมชาติได้ 3,317 ล้านลูกบาศก์ฟุต ต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 92,170 บาร์เรลต่อวัน น้ำมันดิบ 138,937 บาร์เรลต่อวัน
          น.ส.วรรณาภรณ์ยังกล่าวอีกว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้เร่งสร้างความรู้ความ เข้าใจอย่างถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่เพื่อการดำเนินงานด้านการสำรวจและผลิต ปิโตรเลียมซึ่งที่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ โดยการจัดสัมมนา เครือข่ายปิโตรเลียมขึ้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน
          สำหรับการสัมมนาเน้นการเกิดความรับรู้ของสื่อมวลชนในพื้นที่ ซึ่งเป็น การดำเนินการตามแผนงานการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ภายใต้ชื่อโครง การ เครือข่ายปิโตรเลียมประจำปี 2555 วัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูล สร้างความรู้ความเข้าใจในด้านการดำเนินงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่สัมปทานปิโตรเลียม ด้านกฎหมายปิโตร เลียม และผลประโยชน์ที่ได้รับจากการ ประกอบกิจการด้านปิโตรเลียม
          อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานด้าน สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำเป็นอย่าง ยิ่งที่จะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อการดำเนินงานด้านการสำรวจและผลิต ปิโตรเลียมเป็นไปอย่างโปร่งใส จะต้องดำเนินภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญต่อ การอยู่ร่วมกันของชาวบ้านและภาคธุรกิจอื่นๆ โดยเน้นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม
ที่มา ; สยามธุรกิจ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น