นายสุวิทย์
กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวก "เซเว่น อีเลฟเว่น" เปิดเผยว่า
ภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกในช่วง 6 เดือนแรกหรือ ช่วงครึ่งปีแรก 2555
นั้น มีการเติบโตประมาณ 10-15% เมื่อเปรียบเทียบ
จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ผ่านมา
ซึ่งปัจจุบันธุรกิจนี้มีมูลค่า ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท
ตามตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์
โดยกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุด เป็นกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 ตนคาดการณ์ว่าน่าจะมีการเติบโตอีกประมาณ 15% ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงทั้งทางด้าน ภัยธรรมชาติ อาทิ สถานการณ์น้ำท่วม โดยในส่วนของทาง เซเว่น อีเลฟเว่นเองได้ใช้บทเรียนในปี 2554 มาเป็นแบบแผนการรับมือ ทั้งการเพิ่มศักยภาพของศูนย์กระจายสินค้าในต่างจังหวัด อาทิ ขอนแก่น, สุราษฎร์ธานี รวมถึงการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า ในลำพูน ที่จะเปิดในปลายปี 2555 นี้
ในขณะเดียวกันทางเซเว่น อีเลฟเว่นยังได้บริหารความเสี่ยง ผ่านการมองศูนย์กระจายสินค้าชั่วคราวในพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ ชลบุรี, ระยอง และพื้นที่ภาคตะวันตก อาทิ มหาชัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้วยการพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในร้านค้า อาทิ การเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ภายในร้านเป็นไฟเบอร์แทนวัสดุไม้ โดยได้เริ่มนำร่องไปแล้วในสาขาที่เปิดบริการใหม่ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นก็ตาม สำหรับปัจจัยเสี่ยง ทางด้านปัญหาการเมืองนั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าจะ ยืดเยื้อและน่าจะสามารถคลี่คลายไปได้โดยเร็ว
"ขณะที่ด้านกระแสของฟุตบอลยูโร 2012 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น ผมว่าไม่ค่อย หวือหวาเหมือนช่วงฟุตบอลโลก เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการแข่งขัน ตรงกับเวลาในบ้านเราเป็นช่วงดึก หรือประมาณ 23.00 น. ขึ้นไป ประกอบกับมีจำนวนประชาชนหลายรายไม่สามารถรับชมได้ เนื่องจากปัญหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอด ซึ่งในส่วนของร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเองนั้น ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ก็ไม่ได้สร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นมากนัก" นายสุวิทย์ กล่าว
ส่วนทางด้านแนวโน้มการปรับราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยของ ทางรัฐบาลนั้น เซเว่น อีเลฟเว่นได้เตรียมรับมือด้วยการปรับเปลี่ยนวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าภายในร้าน อาทิ การเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
สำหรับภาพรวมการขยายสาขาใหม่ของทางเซเว่น อีเลฟเว่น ในปี 2555 นั้น บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะขยายสาขาใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 500 สาขา โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2555 ที่ผ่านมามีการขยายสาขาใหม่ ไปแล้ว 50% ซึ่งปัจจุบันมีสาขารวมประมาณ 6,700 สาขา ขณะที่ด้านผลประกอบการของบริษัทในปี 2555 ตั้งเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 15% ตามการเติบโตของตลาด ส่วนด้านราคาสินค้าในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 นั้น ตนเชื่อว่าราคาสินค้าน่าจะปรับตัวลดลง จากช่วงครึ่งปีแรก ที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากปัญหาน้ำท่วม ในปี 2554 และปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลต่อการขาดแคลนสินค้า
โดยกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วที่สุด เป็นกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 ตนคาดการณ์ว่าน่าจะมีการเติบโตอีกประมาณ 15% ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงทั้งทางด้าน ภัยธรรมชาติ อาทิ สถานการณ์น้ำท่วม โดยในส่วนของทาง เซเว่น อีเลฟเว่นเองได้ใช้บทเรียนในปี 2554 มาเป็นแบบแผนการรับมือ ทั้งการเพิ่มศักยภาพของศูนย์กระจายสินค้าในต่างจังหวัด อาทิ ขอนแก่น, สุราษฎร์ธานี รวมถึงการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า ในลำพูน ที่จะเปิดในปลายปี 2555 นี้
ในขณะเดียวกันทางเซเว่น อีเลฟเว่นยังได้บริหารความเสี่ยง ผ่านการมองศูนย์กระจายสินค้าชั่วคราวในพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ ชลบุรี, ระยอง และพื้นที่ภาคตะวันตก อาทิ มหาชัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้วยการพัฒนาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในร้านค้า อาทิ การเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ภายในร้านเป็นไฟเบอร์แทนวัสดุไม้ โดยได้เริ่มนำร่องไปแล้วในสาขาที่เปิดบริการใหม่ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นก็ตาม สำหรับปัจจัยเสี่ยง ทางด้านปัญหาการเมืองนั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าจะ ยืดเยื้อและน่าจะสามารถคลี่คลายไปได้โดยเร็ว
"ขณะที่ด้านกระแสของฟุตบอลยูโร 2012 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น ผมว่าไม่ค่อย หวือหวาเหมือนช่วงฟุตบอลโลก เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการแข่งขัน ตรงกับเวลาในบ้านเราเป็นช่วงดึก หรือประมาณ 23.00 น. ขึ้นไป ประกอบกับมีจำนวนประชาชนหลายรายไม่สามารถรับชมได้ เนื่องจากปัญหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอด ซึ่งในส่วนของร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเองนั้น ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ก็ไม่ได้สร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นมากนัก" นายสุวิทย์ กล่าว
ส่วนทางด้านแนวโน้มการปรับราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยของ ทางรัฐบาลนั้น เซเว่น อีเลฟเว่นได้เตรียมรับมือด้วยการปรับเปลี่ยนวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าภายในร้าน อาทิ การเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
สำหรับภาพรวมการขยายสาขาใหม่ของทางเซเว่น อีเลฟเว่น ในปี 2555 นั้น บริษัทตั้งเป้าหมายว่าจะขยายสาขาใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 500 สาขา โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2555 ที่ผ่านมามีการขยายสาขาใหม่ ไปแล้ว 50% ซึ่งปัจจุบันมีสาขารวมประมาณ 6,700 สาขา ขณะที่ด้านผลประกอบการของบริษัทในปี 2555 ตั้งเป้าหมายการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 15% ตามการเติบโตของตลาด ส่วนด้านราคาสินค้าในช่วงครึ่งปีหลัง 2555 นั้น ตนเชื่อว่าราคาสินค้าน่าจะปรับตัวลดลง จากช่วงครึ่งปีแรก ที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากปัญหาน้ำท่วม ในปี 2554 และปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลต่อการขาดแคลนสินค้า
ที่มา
:
แนวหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น