เมื่อ "กลุ่มมิตรผล"
เปิดแผนรีแบรนด์เต็มรูปแบบ จึงได้รับความสนใจมากกว่า
ธุรกิจใดจะเป็นดาวรุ่งในอนาคตนางอัมพร กาญจนกำเนิด กรรมการ
ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจปาร์ติเกิลบอร์ด และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดน้ำตาล กลุ่มมิตรผล
กล่าวว่า ธุรกิจน้ำตาลมิตรผลยังเป็นเรือธงอยู่เสมอ ด้วยกำลังการผลิตติดอันดับ 5
ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาด แบ่งเป็นการ
ส่งออกต่างประเทศแต่ละปีมากถึง 70% และจำหน่ายปลีกภายในประเทศอีก
30% คิดเป็น 13 ล้านกิโลกรัม
แนวโน้มปีนี้หลังจากมีโรงงานผลิตน้ำตาลครบ 5 แห่ง
ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี สิงห์บุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ และกำลังก่อสร้างที่
จ.เลย ตลอดปี จะมีขีดความสามารถผลิตรวมได้ถึงปีละ 18 ล้านตันอ้อย คิดเป็นผลผลิตน้ำตาล
ปีละ 1.9 ล้านตัน
ส่วนภาพรวมแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกปีนี้จะอยู่ระหว่าง 19-22 เซนต์/ปอนด์ ต้นทุนผลิตน้ำตาลของกลุ่มมิตรผลอยู่ที่ 18-19 เซนต์/ปอนด์ สภาพราคายังคงผันผวนจากบราซิล ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่สุดของโลกกำลังเผชิญกับฤดูฝน ผลผลิตอาจจะถูกกระทบได้ รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปก็ทำให้ทุกฝ่ายเป็นห่วงด้วยเช่นกัน
ด้านนายประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน กลุ่มมิตรผล ระบุว่า โรงงานผลิตเอทานอลเป็นธุรกิจมาแรง ขณะนี้กลุ่มมิตรผลผลิตได้ 9 แสนลิตร/วัน หรือปีละ 260 ล้านลิตร/ปี เป็นเอทานอลจาก โมลาส 3 แห่ง ที่สุพรรณบุรี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และจากน้ำอ้อยสด 1 แห่ง ที่ จ.ตาก
โดยรวมแล้วธุรกิจเอทานอลได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ภายในประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา กระทรวงการคลังปลดล็อกมาตรการส่งออกโดยยืดหยุ่นที่เข้าข่ายเป็นแอลกอฮอล์และเปิดให้รวมสต๊อกส่งออกได้แล้ว บวกกับรัฐบาลส่งสัญญาณยกเลิกการใช้เบนซิน 91 ก็จะเป็นแรงส่งให้เอทานอลและไบโอดีเซลเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศ ฟิลิปปินส์มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นปีละ 10% จากตอนนี้ใช้ปีละ 400 ล้านลิตร ส่วนเวียดนามเตรียมประกาศใช้กฎหมายให้ลงทุนโรงงานเอทานอลตามเมืองใหญ่ได้แล้ว เริ่มมกราคม 2556 และทำได้ทั่วประเทศภายในปี 2558 จึงเป็นโอกาสของกลุ่มมิตรผล ซึ่งมีทั้งเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญพัฒนาธุรกิจต้นน้ำจากขยายพื้นที่ปลูกอ้อย โรงงานน้ำตาล และพลังงานครบวงจร
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจส่วนภาพรวมแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกปีนี้จะอยู่ระหว่าง 19-22 เซนต์/ปอนด์ ต้นทุนผลิตน้ำตาลของกลุ่มมิตรผลอยู่ที่ 18-19 เซนต์/ปอนด์ สภาพราคายังคงผันผวนจากบราซิล ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่สุดของโลกกำลังเผชิญกับฤดูฝน ผลผลิตอาจจะถูกกระทบได้ รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปก็ทำให้ทุกฝ่ายเป็นห่วงด้วยเช่นกัน
ด้านนายประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน กลุ่มมิตรผล ระบุว่า โรงงานผลิตเอทานอลเป็นธุรกิจมาแรง ขณะนี้กลุ่มมิตรผลผลิตได้ 9 แสนลิตร/วัน หรือปีละ 260 ล้านลิตร/ปี เป็นเอทานอลจาก โมลาส 3 แห่ง ที่สุพรรณบุรี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และจากน้ำอ้อยสด 1 แห่ง ที่ จ.ตาก
โดยรวมแล้วธุรกิจเอทานอลได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ภายในประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา กระทรวงการคลังปลดล็อกมาตรการส่งออกโดยยืดหยุ่นที่เข้าข่ายเป็นแอลกอฮอล์และเปิดให้รวมสต๊อกส่งออกได้แล้ว บวกกับรัฐบาลส่งสัญญาณยกเลิกการใช้เบนซิน 91 ก็จะเป็นแรงส่งให้เอทานอลและไบโอดีเซลเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศ ฟิลิปปินส์มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นปีละ 10% จากตอนนี้ใช้ปีละ 400 ล้านลิตร ส่วนเวียดนามเตรียมประกาศใช้กฎหมายให้ลงทุนโรงงานเอทานอลตามเมืองใหญ่ได้แล้ว เริ่มมกราคม 2556 และทำได้ทั่วประเทศภายในปี 2558 จึงเป็นโอกาสของกลุ่มมิตรผล ซึ่งมีทั้งเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญพัฒนาธุรกิจต้นน้ำจากขยายพื้นที่ปลูกอ้อย โรงงานน้ำตาล และพลังงานครบวงจร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น