พาณิชย์แก้ปัญหาหมู-ไข่ล้นตลาด
ส่งขายผ่านร้านถูกใจกับโครงการธงฟ้า ขายปลีกหมูเนื้อแดงชำแหละ กก. 85 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 แค่ฟองละ
2.50 บาท 25 จังหวัดนำร่อง "วัชรี
วิมุกตายน" เผยกรมการค้าภายในพัฒนาเว็บไซต์ของกรมใหม่
ผู้บริโภคสามารถดูตำแหน่งที่ตั้งพร้อมเบอร์โทรศัพท์ร้านถูกใจที่เปิดบริการได้แล้ว
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้เชื่อมโยงเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ นำไข่ไก่ราคาถูกจำหน่ายผ่านร้านถูกใจ เริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป โดยไข่ไก่เบอร์ 2 จำหน่ายปลีกในราคาฟองละ 2.50 บาท ในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ และระยอง เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด หลังจากกรมการค้าภายในได้จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคไข่ไก่มาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังจัดโครงการเนื้อหมู ธงฟ้า โดยให้ผู้เลี้ยงสุกร ผู้ประกอบการนำเนื้อหมูคุณภาพดีจัดจำหน่ายเนื้อหมู ธงฟ้า ในราคาจำหน่ายเนื้อหมูตัดรวมหนัง กก.ละ 75 บาท และหมูเนื้อแดง สะโพก ไหล่ กก.ละ 85 บาท ในพื้นที่นำร่อง 25 จังหวัด 34 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ อุทัยธานี นครสวรรค์ ลำพูน เพชรบูรณ์ สกลนคร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ขอนแก่น อุดรธานี ลพบุรี ชัยนาท นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ชลบุรี นครปฐม เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ยะลา ระยอง พังงา สงขลา และส่วนกลางจำหน่ายที่หน้ากระทรวงพาณิชย์ หน้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกระทรวงสาธารณสุข โดยจำหน่ายนำร่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกรกฎาคมศกนี้
นางวัชรีกล่าวว่า การเพิ่มช่องทางจำหน่ายไข่ไก่ในร้านถูกใจ และการจำหน่ายหมูธงฟ้า นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสินค้าให้แก่ร้านถูกใจ ทำให้ประชาชนมีโอกาส เข้าถึงสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชาวบ้านในชนบทได้มีโอกาสจับจ่ายใช้สอยสินค้าคุณภาพดี ราคาถูกโดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซื้อสินค้าในตัวเมือง และช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้พัฒนาเว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน www.dit.go.th เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถดูตำแหน่งที่ตั้งร้านถูกใจที่เปิดให้บริการแล้วได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำตำแหน่งที่ตั้งร้านถูกใจให้ครบทั่วประเทศ โดยสามารถคลิกเมนูด้านข้าง หัวข้อ ตำแหน่งร้านถูกใจในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีตำแหน่งแผนที่จริงแสดงตำแหน่งร้านถูกใจ โดยจะมีรายละเอียดชื่อร้านถูกใจ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย
"ปัจจุบันกรมได้มีการพัฒนาระบบสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าให้แก่ร้านถูกใจ ทำให้การดำเนินการจัดส่งสินค้าให้แก่ร้านถูกใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ"
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า สถานการณ์ไข่ไก่ล่าสุดผลผลิตไข่ไก่ ล้นตลาดมากถึงวันละ 5-6 ล้านฟอง จากช่วงก่อนหน้าที่ล้นตลาดอยู่ที่วันละ 1-2 ล้านฟองเท่านั้น เพราะแม่พันธุ์ที่นำเข้าเสรีในช่วงก่อนหน้านี้เริ่มให้ผลผลิตเต็มที่แล้ว ส่งผลให้เกษตรกรขายไข่ได้ราคา ถูกลง โดยเฉพาะรายย่อยที่ถูกกดราคารับซื้ออย่างหนัก ทั้งที่กรมได้กำหนดราคาแนะนำขายไข่คละ (หน้าฟาร์ม) ที่ฟองละ 2.20 บาท อย่างไรก็ตามกรมได้หาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อผลักดันผลผลิตส่วนเกินออกไปประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น รวมถึงจะนำมาขายราคาถูกตามตลาดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องที่จะให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ทบทวนนโยบายการนำเข้า พ่อแม่พันธุ์ไก่แบบเสรีนั้น ได้พยายามแจ้งไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง
ส่วนสถานการณ์ราคาเนื้อหมู ล่าสุดได้ประกาศราคาแนะนำจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดง ประจำวันที่ 18-25 ก.ค.นี้ โดยมีราคาเท่ากับสัปดาห์ที่แล้ว โดยในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกิน กก.ละ 114 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 119 บาท ภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 124 บาท ยกเว้นเนื้อสุกรราคาพิเศษ เช่น เนื้อหมูอนามัย เนื้อปลอดสาร ส่วนราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มในกรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 59 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 63 บาท จากเดิม 61 บาท และภาคใต้ ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 65 บาท
นอกจากนี้ ราคาขายส่งหมูชำแหละ (หมูซีก) กรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกินกว่า กก.ละ 71 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 75 บาท และภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 77 บาท ขณะที่ราคาขายส่งชิ้นส่วนหมูเนื้อแดง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) กรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกิน กก.ละ 99 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 104 บาท และภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 109 บาท
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้เชื่อมโยงเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ นำไข่ไก่ราคาถูกจำหน่ายผ่านร้านถูกใจ เริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป โดยไข่ไก่เบอร์ 2 จำหน่ายปลีกในราคาฟองละ 2.50 บาท ในพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ และระยอง เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด หลังจากกรมการค้าภายในได้จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคไข่ไก่มาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังจัดโครงการเนื้อหมู ธงฟ้า โดยให้ผู้เลี้ยงสุกร ผู้ประกอบการนำเนื้อหมูคุณภาพดีจัดจำหน่ายเนื้อหมู ธงฟ้า ในราคาจำหน่ายเนื้อหมูตัดรวมหนัง กก.ละ 75 บาท และหมูเนื้อแดง สะโพก ไหล่ กก.ละ 85 บาท ในพื้นที่นำร่อง 25 จังหวัด 34 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ อุทัยธานี นครสวรรค์ ลำพูน เพชรบูรณ์ สกลนคร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ขอนแก่น อุดรธานี ลพบุรี ชัยนาท นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ชลบุรี นครปฐม เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ยะลา ระยอง พังงา สงขลา และส่วนกลางจำหน่ายที่หน้ากระทรวงพาณิชย์ หน้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และกระทรวงสาธารณสุข โดยจำหน่ายนำร่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกรกฎาคมศกนี้
นางวัชรีกล่าวว่า การเพิ่มช่องทางจำหน่ายไข่ไก่ในร้านถูกใจ และการจำหน่ายหมูธงฟ้า นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสินค้าให้แก่ร้านถูกใจ ทำให้ประชาชนมีโอกาส เข้าถึงสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชาวบ้านในชนบทได้มีโอกาสจับจ่ายใช้สอยสินค้าคุณภาพดี ราคาถูกโดยไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซื้อสินค้าในตัวเมือง และช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้พัฒนาเว็บไซต์ของกรมการค้าภายใน www.dit.go.th เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถดูตำแหน่งที่ตั้งร้านถูกใจที่เปิดให้บริการแล้วได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำตำแหน่งที่ตั้งร้านถูกใจให้ครบทั่วประเทศ โดยสามารถคลิกเมนูด้านข้าง หัวข้อ ตำแหน่งร้านถูกใจในกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีตำแหน่งแผนที่จริงแสดงตำแหน่งร้านถูกใจ โดยจะมีรายละเอียดชื่อร้านถูกใจ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย
"ปัจจุบันกรมได้มีการพัฒนาระบบสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าให้แก่ร้านถูกใจ ทำให้การดำเนินการจัดส่งสินค้าให้แก่ร้านถูกใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ"
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า สถานการณ์ไข่ไก่ล่าสุดผลผลิตไข่ไก่ ล้นตลาดมากถึงวันละ 5-6 ล้านฟอง จากช่วงก่อนหน้าที่ล้นตลาดอยู่ที่วันละ 1-2 ล้านฟองเท่านั้น เพราะแม่พันธุ์ที่นำเข้าเสรีในช่วงก่อนหน้านี้เริ่มให้ผลผลิตเต็มที่แล้ว ส่งผลให้เกษตรกรขายไข่ได้ราคา ถูกลง โดยเฉพาะรายย่อยที่ถูกกดราคารับซื้ออย่างหนัก ทั้งที่กรมได้กำหนดราคาแนะนำขายไข่คละ (หน้าฟาร์ม) ที่ฟองละ 2.20 บาท อย่างไรก็ตามกรมได้หาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อผลักดันผลผลิตส่วนเกินออกไปประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น รวมถึงจะนำมาขายราคาถูกตามตลาดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องที่จะให้กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ทบทวนนโยบายการนำเข้า พ่อแม่พันธุ์ไก่แบบเสรีนั้น ได้พยายามแจ้งไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง
ส่วนสถานการณ์ราคาเนื้อหมู ล่าสุดได้ประกาศราคาแนะนำจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดง ประจำวันที่ 18-25 ก.ค.นี้ โดยมีราคาเท่ากับสัปดาห์ที่แล้ว โดยในเขตกรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกิน กก.ละ 114 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 119 บาท ภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 124 บาท ยกเว้นเนื้อสุกรราคาพิเศษ เช่น เนื้อหมูอนามัย เนื้อปลอดสาร ส่วนราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มในกรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 59 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 63 บาท จากเดิม 61 บาท และภาคใต้ ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 65 บาท
นอกจากนี้ ราคาขายส่งหมูชำแหละ (หมูซีก) กรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกินกว่า กก.ละ 71 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 75 บาท และภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 77 บาท ขณะที่ราคาขายส่งชิ้นส่วนหมูเนื้อแดง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) กรุงเทพฯ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกิน กก.ละ 99 บาท ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เกิน กก.ละ 104 บาท และภาคใต้ ไม่เกิน กก.ละ 109 บาท
ที่มา
: ประชาชาติธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น