วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มข.จับมือ กองทัพอากาศ วิจัยเชื้อเพลิงอากาศยาน


รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับเกียรติจากกองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม ร่วมดำเนินการวิจัยและพัฒนา โครงการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์ด้วยกระบวนการไฮโดรโพรเซสซิ่ง นับว่าเป็นก้าวแรกของทั้งสองหน่วยงาน ที่ประสานความร่วมมือกันโดยได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.53 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว นอกจากเป็นความร่วมมือของสองหน่วยงานหลักแล้ว ยังเป็นความร่วมมือระหว่างนักวิจัยจาก 3 คณะวิชา ประกอบด้วย ผศ.ดร.ผกาวดี แก้วกันเนตร รศ.ดร.พรเทพ ถนนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยี และ รศ.ดร.ธนากร วงศ์วัฒนเสถียร รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.เฉลิม เรืองวิริยะชัย จากคณะวิทยาศาสตร์ และด้านกองทัพอากาศ คณะนักวิจัยนำโดยนาวาอากาศโท อมรพงศ์ เอี่ยมสะอาด หัวหน้าแผนกวิจัยและตรวจทดลอง กองวิทยาการ กรมช่างอากาศ โดยจะร่วมกันดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์ด้วยกระบวนการไฮโดรโพรเซสซิ่ง เพื่อใช้สำหรับอากาศยานให้กับกองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 2 ปี ซึ่งรายละเอียดของโครงการจะเป็นการศึกษาการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์จากน้ำมันปาล์มโดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีร่วมกับแก๊สไฮโดรเจน ภายใต้อุณหภูมิและความดันที่เหมาะสมผ่านการพัฒนาระบบการผลิตต้นแบบขนาด 50 ลิตร/รอบการทำงาน และเมื่อการดำเนินการวิจัยประสบความสำเร็จแล้ว มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะดำเนินการส่งมอบระบบการผลิตฯ ดังกล่าวให้ทางกองทัพอากาศต่อไป ไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทนของกองทัพอากาศต่อไป โดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 2 ปี เชื่อว่าโครงการวิจัยดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนภายในประเทศ และเป็นการสนับสนุนโครงการวิจัยตามแนวพระราชดำริ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรจากอุตสาหกรรมเกษตรภายในประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
            พลอากาศตรีบุญสืบ ประสิทธิ์ รองเจ้ากรมช่างอากาศ กองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กองทัพอากาศมีหน้าที่หลักในการเตรียมกำลังกองทัพอากาศเพื่อการป้องกันราชอาณาจักร โดยมีภารกิจที่ได้รับมอบหมายในการบริหารราชการทุกส่วนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ ทั้งนี้พบว่ายุทธศาสตร์ของชาติในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสายงานการวิจัย เพื่อให้นักวิจัยมีระบบความก้าวหน้าในวิชาชีพ พัฒนาแหล่งงานด้านการวิจัย นอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาขั้นสูง เพื่อพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ดังนั้น จึงนำมาสู่ยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศด้านการวิจัยและพัฒนา ซึ่งมีนโยบายที่จะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนายุทโธปกรณ์ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมสนับสนุนภารกิจหลักของกองทัพอากาศ ได้แก่พลังงานทดแทนด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ โดยเน้นการสร้างเครือข่ายด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับหน่วยงานภายนอกที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะการวิจัยร่วม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพอากาศ จึงเป็นที่มาของการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงแห่งชาติระหว่างกองทัพอากาศและมหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับโครงการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์ด้วยกระบวนการไฮโดรโพรเซสซิ่งนั้น เป็นโครงการวิจัยที่จะทำให้ได้มาซึ่งพลังงานทดแทนสำหรับอากาศยาน เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์เพื่อใช้ทดแทนเชื้อเพลิงอากาศยานชนิด JET A-1 และ JP-8 ขึ้นในประเทศ เพื่อความมั่นคงทางทหารและความมั่นคงทางพลังงานของชาติอย่างยั่งยืนในอนาคต
เหตุผลของการคิดค้นเพื่อหาพลังงานทดแทนให้อากาศยานก็เช่นเดียวกับพลังงานทดแทนด้านอื่น นั่นคือ ปัญหาจากวิกฤตการณ์ด้านการขาดแคลนพลังงาน หรือการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้กับอากาศยาน จึงทำให้มีการตระหนักถึงปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มีการจัดตั้งองค์กรต่างๆ เพื่อศึกษาค้นคว้าหาพลังงานทดแทนที่มีความเหมาะสมกับการนำมาใช้งานกับอากาศยาน โดยพลังงานทดแทนที่เหมาะสมที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานนั้นจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะสม ได้แก่ ค่าพลังงาน จุดเยือกแข็ง มีความปลอดภัยทางการบิน ปริมาณที่ผลิตได้มีมากพอกับความต้องการ โดยมีเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมและต้นทุนการผลิตที่ยอมรับได้ โดยเทคโนโลยีสำหรับใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์สำหรับอากาศยานนั้น ปัจจุบันได้มีการพัฒนาแล้วในหลายประเทศ รวมทั้งมีการทดสอบการนำไปใช้งานกับสายการบินต่างๆ และสำหรับประเทศไทย โครงการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์ด้วยกระบวนการไฮโดรโพรเซสซิ่งครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการวิจัยและพัฒนาพลังงานทดแทนที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพลังงานทดแทนด้านอื่นๆ
                   พลอากาศตรีบุญสืบ กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงทดแทนจากพืชน้ำมันชนิดต่างๆ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการผลิตเชื้อเพลิงเป็นพลังงานทดแทน โดยเฉพาะด้านไบโอดีเซล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันสกัดจากสาหร่าย ซึ่งเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเพื่อการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์อากาศยานด้วยเช่นกัน การที่กองทัพอากาศได้มีโอกาสประสานความร่วมมือในโครงการวิจัยครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการที่จะได้รับองค์ความรู้จากสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพทั้งบุคลากร อุปกรณ์และเครื่องมือ รวมถึงสถานที่ที่เหมาะสม องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นนี้จะนำไปสู่การพัฒนา ปรับปรุงยุทโธปกรณ์ของกองทัพให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างนวัตกรรมของกำลังทางอากาศเพื่อความมั่นคงทางทหารและพลังงานของชาติต่อไป
ที่มา : บ้านเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น